เมื่อวันที่ผ่านมา นางจิราพร เชาว์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ (พมจ.เชียงใหม่) และนายชอร์น โอ-เนียล์ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการ “เดินเพื่อเสรีภาพ เชียงใหม่ ครั้งที่ 1” (Walk For Freedom) ณ หอศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยงานนี้มีชาวต่างชาติและชาวเชียงใหม่ร่วมงานกว่า 200 คน ซึ่งนางจิราพร พร้อมด้วยนายชอร์น ได้นำคณะเดินเพื่อเสรีภาพ เดินจากหอศิลปวัฒนธรรมฯ ไปตามถนนนิมมานเหมินทร์ ไปจนถึงศูนย์การค้าเมญ่าฯ เพื่อสร้างความตระหนักและจิตสํานึกให้กับประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวในเรื่องการค้ามนุษย์
สำหรับกิจกรรม “เดินเพื่อเสรีภาพ เชียงใหม่ ครั้งที่ 1” (Walk For Freedom) ที่จัดขึ้นโดย มูลนิธิเออเบิร์น ไลท์ (ประเทศไทย) ที่เป็นมูลนิธิที่ทํางานเพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนชายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือถูกแสวงหาประโยชน์โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์นี้ เป็นกิจกรรมระดับโลก จัดขึ้นเพื่อการระดมทุนและการสร้างจิตสํานึกในเรื่องการค้ามนุษย์ เกิดขึ้นในหลายร้อยเมืองทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ ซึ่งดําเนินการมาอยางต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว และในปีนี้ การเดินเพื่อเสรีภาพที่เกิดขึ้น ณ จังหวัดเชียงใหม่นี้ ถือเป็นเหตุการณ์สําคัญที่การเดินเพื่อเสรีภาพจะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการเดินคือการสร้างจิตสํานึกเกี่ยวกับผู้คนนับล้าน ทั้งชาย หญิง และเด็ก ที่ยังคงติดอยู่ในบ่วงของการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ในทุกวันนี้ ด้วยการระดมทุนและการที่มีผู้คนจํานวนนับพันทัวโลกมาร่วมการเดินรณรงค์นี้ ทางมูลนิธิฯเราเชื่อว่าจะกระตุ้นให้เกิดการช่วยเหลือและการเยียวยาผู้คนซึ่งถูกแสวงหาประโยชน์เฉกเช่นสินค้า
“เดินเพื่อเสรีภาพ” (Walk For Freedom) เป็นกิจกรรมซึ่งผู้คนทั่วโลกจดจํา จากการเดินแถวตอนเรียงหนึ่งและทุกคนสวมเสื้อยืดสีดํา ระหว่างทางจะมีทีมงานคอยแจกเอกสารให้ความรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ท่านจะเห็นแถวเหล่านี้ในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่จากหน้าหอไอเฟลในประเทศฝรั่งเศสและซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ในประเทศออสเตรเลีย ไปจนถึงทางเดินเกียรติยศหรือฮอลลีวู้ด “วอลค์ ออฟ เฟม” ในสหรัฐฯ
“เราเชื่อมั่นเหลือเกินว่า การบังคับคนเป็นทาสจะถูกกําจัดในช่วงชีวิตของเรา การเดินเพื่อเสรีภาพคือหนึ่งในกิจกรรมที่สร้างผลกระทบด้านบวกที่สําคัญที่สุดที่ เอ-ทเวนตี้วัน กระทํา มันคือสิ่งที่จับต้องได้และใครก็ตามสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ เราทุกคนออกไปร่วมเดินบนถนนหนทางและสร้างความแตกต่างโดยก้าวย่างของเราได้” คริสทีน เคน ผู้ก่อตั้งเอ-ทเวนตี้วันกล่าว
ซึ่ง เอ-ทเวนตี้วัน นั้น เป็นองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร ขับเคลื่อนไปด้วยความหวังอันแรงกล้าว่ามนุษย์ทุกที่ทุกแห่ง จะได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากพันธนาการและได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์แบบ เราคือผู้กำจัดการค้าทาสในศตวรรษที่ 21 ร่วมมือกับทุกคนเพื่อปลดปล่อยคนที่ถูกกดขี่และถูกแสวงหาประโยชน์ อีกทั้งทําลายสาเหตุของอาชญากรรมดังกล่าว ทั้งนี้ ยุทธวิธีในการดําเนินงานขององค์กร มี 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ “การเข้าถึง” “การช่วยกู้” และ “การฟื้นฟูเยียวยา”
