ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับตัวนายสุดตา สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีผู้ปกครองของ ด.ญ.อ้อย(นามสมมุติ) แจ้งความกับ ร.ต.อ.(หญิง) จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ว่าลูกสาวซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานนายสุดตาผู้ต้องหา ถูกนายสุดตาล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จนกระทั่งปัจจุบัน และทุกครั้งที่ถูกกระทำจะพูดข่มขู่ ห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้ใครฟัง มิฉะนั้นจะฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว ทำให้เด็กมีความเครียดเพราะมีบ้านอยู่ในรั้วเดียวกัน
กระทั่งมารดาเริ่มเห็นความผิดปกติ จากเด็กร่าเริงแจ่มใสกลายเป็นคนเศร้าซึม มักเก็บตัวอยู่คนเดียวในห้อง จนวันหนึ่งเห็นนายสุดตาแอบหอมแก้มลูกสาว จึงเรียกมาถามทีแรกเด็กไม่กล้าพูด มีอาการตัวสั่นและร้องไห้ บิดามารดาจึงปลอบประโลมก่อนจะเปิดปากเล่าความจริงว่า ถูกนายสุดตาล่วงละเมอทางเพศตั้งแต่เรียนชั้นประถม 3 จนถึงชั้น ม.1 รวมเวลานานถึง 5 ปี โดยทุกครั้งจะถูกกระทำภายในบ้านของผู้ต้องหาตอนเวลากลางวัน ช่วงไม่มีใครอยู่บ้าน จึงนำตัวไปแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว
ด้านบิดาของ ด.ญ.อ้อย เผยว่านายสุดตาเป็นน้องชายของพ่อตน จึงมีศักดิ์เป็นอา ส่วนลูกจะนายสุดตาเรียกว่าพ่อทุกคำ ไม่คิดว่าจะกล้าทำหลานได้ถึงขนาดนี้ เสียแรงที่ไว้ใจทุกอย่าง ถึงตอนนี้ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของผลกรรมที่ทำไว้ และก่อนหน้าที่ตำรวจจะเข้าจุบกุม นายสุดตาประกาศจะฟ้องทุกคน ตั้งแต่ร้อยเวร นักข่าว พ่อแม่ของเด็ก โดยอ้างตนเองบริสุทธิ์ไม่ได้กระทำตามที่เด็กกล่าวอ้าง
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร เขตเทศบาลเมืองนครพนม สอบถามเพื่อนร่วมงานว่านายสุดตาไปไหน ทุกคนต่างไม่ทราบ นักข่าวถามต่อว่ารู้ไหมนายสุดตาถูกจับ เพื่อนร่วมงานต่างตกใจเพราะไม่ได้ติดตามข่าวสาร โดยนายสุดตาเคยไปทำงานเป็นกุ๊กที่ประเทศซาอุฯหลายปี ก่อนจะกลับมาเปิดร้านอาหารลาบเป็ดแต่กิจการไปไม่รอด จึงหันมาเป็นเชฟโรงแรม ปกติไม่ค่อยสุงสิงกับใครในชุมชน จึงไม่มีใครทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หลังชุดสืบสวนบันทึกการจับกุมเรียบร้อย ก็ส่งตัวนายสุดตาผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตลอดเวลานายสุดตาจะใช้กระดาษปิดบังใบหน้า และต้องนอนห้องขัง 1 คืน เพราะเจ้าของคดีไม่ให้ประกันตัว ต้องรอในวันรุ่งขึ้นหลังฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม ส่วนเด็กสาวอยู่ในความดูแลของทีมสหวิชาชีพ เพื่อเยียวยาใจให้คลายความเครียดจากเหตุการณ์อันเลวร้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: