โชว์เฟอร์รถบัสดวงกุดมุดใต้ท้องรถ เอาแม่แรงลองรถ ถูกตัวรถตกลงมาทับดับกลางถนน ถามกลางความตื่นตกใจของชาวบ้าน
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบัสทับคนขับเสียชีวิตที่บริเวณกลางถนนสุขุมวิทขาเข้านครบาล ปากทางเข้าซอยสุขุมวิท 72 หรือซอย ศิริคาม ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิปอเต๊กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถบัสยี่ห้อ ฮีโน่ สีชมพู ทะเบียน 30-1465 สมุทรปราการ ด้านข้างมีอักษรคำว่า ไพฑูรย์ มะลิ ด้านหน้า วนัสนัน จอดอยู่กลางถนนในสภาพล้อหลังข้างขวาวงแรกหลุดกลิ่นไปด้านหน้าห่างจากตัวรถประมาณ 100 เมตรไปชนเข้ากับประตูรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีบอร์นทอง ทะเบียน ชห-106 กรุงเทพมหานคร ที่จอดรอเลี้ยวกลับรถอยู่ที่จุดยูเทรินกลางถนนจนประตูยุบ ส่วนล้อรถวงที่สองที่อยู่ด้านในได้แบะออกมาเนื่องจากน็อตที่ล๊อกล้อทั้งสองเส้นติดอยู่กับเพลาขับทั้ง 8 ตัวขาดออกจากจานยึดทั้งหมด ใต้ท้องรถพบร่างของนาย บุญปลูก น่วมสอน อายุ 52 ปี คนขับรถบัสคันดังกล่าวถูกตัวทับเข้าที่กลางอกนอนเสียชีวิตติดคาอยู่ใต้ท้องรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องใช้เครื่องถ่างไฮโดลิคมาทำการยกตัวรถขึ้นก่อนช่วยกันดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ ก่อนมอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
จากการสอบถาม นางสาวกัญญภัทร กันยางาม อายุ 33 ปี คนขับรถเก๋งผู้เสียหาย ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนขับรถมาและเลี้ยวเข้าไปจอดรถกลับรถอยู่ที่จุดยูเทรินกลางถนน อยู่ ๆ ล้อรถบัสคันดังกล่าวก็กลิ่งเข้ามาชนที่ประตูข้างที่ตนนั่งขับอยู่อย่างแรงเสียงดังสนั่น จากแรงกระแทกทำให้ตัวรถของตนขยับไปทางด้านข้างและศีรษะของตนกระแทกกับกระจกประตูจนได้รับบาดเจ็บ และประตูเปิดไม่ออกตนจึงต้องปีนออกมาทางประตูอีกข้างหนึ่ง หลังออกมาจากรถ ได้มองหาที่มาของล้อรถวงดังกล่าว ได้พบเห็นรถบัสคันดังกล่าวจอดอยู่กลางในสภาพล้อหลังข้างขวาวงแรกได้หลุดหายไป เพลือเพียงล้อวงในที่ยังติดคาอยู่ ในระหว่างที่ตนกำลังเดินจะเข้าไปหาคนขับรถบัสคันดังกล่าว ได้พบเห็นผู้ตายกำลังมุดเอาแม่แรงเข้าไปใส่ที่ใต้ท้องรถและกำลังมุดออกมาได้เพียงครึ่งตัวอยู่ ๆ ล้อหลังวงที่อยู่ด้านในได้หลุดจากเบ้าและแบะออกมาด้านนอก ทำให้ตัวรถทรุดลงไปนั่งกับพื้นถนนทับร่างของผู้ตายติดคาอยู่ ด้วยความตกใจตนจึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าหลังจากที่ล้อหลังวงแรกหลุดไปเนื่องจากน๊อตล้อขาดออกทั้งหมดเหลือเพียงล้อวงในเพียงวงเดียวเท่านั่นที่ยังนั่งอยู่ในเบ้าดุมล้อเท่านั้นตัวรถจึงยังไม่เอียงลงมาถือพื้นคาดว่าผู้ตายน่าจะพยายามเอาแม่แรงเข้าไปหนุนตัวถังรถเอาไว้ไม่ให้ตกลงมากระแทกพื้นถนน แต่ระหว่างที่ที่ผู้ตายพยามยามมุดออกมาอาจจะมีรถใหญ่วิ่งมาจึงทำให้พื้นถนนสั่นสะเทือนจึงทำให้ล้อวงที่นั่งอยู่ในเบ้าวงในกระเทือนหลุดออกจากเบ้าทำให้ตัวถังรถตกลงมากระแทกพื้นถนนและทับกลางหน้าอกผู้ตายจนเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
