ตร.นำหมายจับรวบหนุ่มกระบี่ หลังถูกภรรยาแจ้งจับข่มขืนลูกสาววัย 13 ปี ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ ขณะญาติไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 ต.ค.62 พ.ต.ท.สมพร ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.สส.สภ.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ นำกำลังชุดสืบสวน สภ.อ่าวนาง พร้อมหมายจับศาล จ.กระบี่ เลขที่ 441/2562 ลงวันที่ 16 ต.ค.62 ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี, กระทำอนาจารเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี จับกุมตัวนายอนันทร์ หยังกุล อายุ 44 ปี อาชีพทำประมง ที่บ้านเลขที่ 263 หมู่ 2 ต.อ่าวนาง หลังมีผู้เสียหายคือ นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี นำตัว ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกสาว เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ด.ญ.เอ ถูกนายอนันทร์ ผู้เป็นพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง
พ.ต.ท.ภัรสพร หลีสู สว.สอบสวน สภ.อ่าวนาง เจ้าของคดี เผยว่า นางน้อย แม่ของผู้เสียหายให้การว่า ก่อนนี้มีปัญหาทะเลาะกับผู้ต้องหา จึงแยกกันอยู่คนละบ้าน โดยสามีนำลูกสาว 2 คน คือ ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 8 ปี น้องสาวไปเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านเกิดเหตุ ต่อมา ด.ญ.เอ แจ้งให้นางน้อย ทราบว่าถูกผู้ต้องหาซึ่งเป็นพ่อ บังคับข่มขืนหลายครั้ง นางน้อย จึงไปรับตัวลูกสาวมาจากบ้านเกิดเหตุ และนำตัวมาแจ้งความ ตำรวจส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกาย ก็พบอวัยวะเพศ มีร่องรอยถูกล่วงละเมิดจริง จึงประสานให้สหวิชาชีพ ร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหาย ยืนยันว่าถูกผู้ต้องหาข่มขืนจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับดังกล่าว
เบื้องต้นนายอนันทร์ ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ตนเองไม่เคยกระทำกับลูกสาวตามที่ถูกกล่าวหา แต่เชื่อว่าภรรยาต้องการจะกล่าวหาใส่ร้ายตน จึงสร้างเรื่องขึ้นมาแจ้งความ
ด้านนายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี พี่ชายของผู้ต้องหา และพักอาศัยอยู่บ้านติดกัน กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าน้องชายจะกระทำกับลูกสาวตัวเองจริงตามที่ถูกกล่าวหา เพราะรู้จักนิสัยของนายอนันทร์ จริงปกติน้องชายจะเป็นคนไม่เคยสร้างปัญหาอะไร รักและดูแลลูกอย่างดี ตั้งใจทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูลูก หลังทราบเรื่องตนก็สอบถามจากน้องชาย ว่าทำจริงหรือไม่ น้องชายก็ปฏิเสธมาโดยตลอด ตนจึงไม่เชื่อว่าจะทำจริง เพราะหากเด็กมีปัญหาก็น่าจะเล่าให้ภรรยาของตนฟัง เพราะใกล้ชิดกันดี แต่หากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ตนก็บอกน้องชายไปว่าให้ยอมรับความจริง และยอมชดใช้ความผิดที่ก่อขึ้น
ขณะหลานผู้ต้องหา อายุ 37 ปี กล่าวว่าอยู่กับผู้ต้องหาตลอด จากที่คลุกคลีกับผู้ต้องหาไม่เชื่อว่าจะกระทำจริงตามที่ถูกกล่าวหา
