ชัยภูมิ – หลัง จนท.ตร.เตรียมออกหมายเรียกตามภาพวงจรปิดที่จับภาพไว้ได้ และมีคนนำไปแฉว่อนจนฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียลในขณะนี้ ซึ่งมีผู้ร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้ทั้งหมดรวม 7 ราย ซึ่งหลังเข้ามอบตัวทั้งหมด 7 รายแล้ว ยังขอให้การปฏิเสธเพราะฝ่ายตัวเองถูกทำร้ายก่อน เริ่มทำเสียงอ่อยขอปัดว่ากลุ่มตนเองไม่ใช่กลุ่มนายทุนเงินกู้เส้นใหญ่แต่อย่างใด การก่อเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันพวกตัวเองถูกทำร้ายก่อนเท่านั้น จึงอยากวอนขอความเป็นธรรมต่อกรณีที่เกิดขึ้นด้วย ด้านตร.เตรียมส่งดำเนินคดีในอีกหลายข้อหาหนัก รวมทั้งด้านผู้เป็นแม่ รปภ.ที่ถูกรุมทำร้ายครั้งนี้ขอให้จนท.ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ถึงที่สุด!
เมื่อช่วงเวลา 13.00 น.วันที่ 24 ต.ค.62 ความคืบหน้าคดีเมื่อกลางดึกวันที่ 23 ต.ค.ทีผ่านมา หลังมีกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเส้นใหญ่รับปล่อยเงินกู้นอกระบบจากต่างพื้นที่แถวจ.ภาคเหนือและอีสาน ได้พากันเดินทางมานับ 10 คน และเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านถนนชัยประสิทธิ์ ในตัวเมืองชัยภูมิ
และเกิดไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทไล่ทำร้ายร่างกายกันกับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ในผับดังกล่าว ก่อนที่จะมีทั้งการใช้อาวุธปืนสั้นออกมามายิงขึ้นฟ้าโชว์ศักดิ์ดาไปหลายนัด และยังมีการเข้าไล่รุมทำร้ายร่างกาย รปภ.ของผับดังกล่าว ที่พยายามเข้าไปห้ามไม่ให้กลุ่มทั้ง 2 วิวาทกัน จึงทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวไม่พอใจ รปภ.ที่เข้ามาห้าม และถูกรุมทำร้ายจนนอนหมดสติได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างป่าเถื่อนแม้กระทั่ง จนท.ตร.มาห้ามยังไม่ฟัง ซึ่งกลุ่มโจ๋ดังกล่าวยังไม่หนำใจ แม้ รปภ.ผับดังรายนี้จะนอนแน่นิ่งหมดสติไปแล้ว ยังมีการวนเวียนมาเตะ และใช้เท้าเหยียบเข้าที่ใบหน้าอีกหลายครั้งไม่ยอมหยุด
จนต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ขอกำลังเข้ามาช่วยหนุนช่วยระงับเหตุในพื้นที่เพิ่มเติม เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุเพื่อเข้าระงับเหตุครั้งนี้ แต่กลุ่มชายฉกรรจ์โจ๋นับสิบก็ยังไม่สนใจที่จะฟังการห้ามปราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังมีการเข้าใช้เท้าเหยียบใบหน้า รปภ.ที่นอนหมดสติรายนี้ซ้ำยังไม่หยุด แบบไม่เกรงกลัวใครและยังมีการท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจพูดดูหมิ่นท้าแจกของลับให้ จนท.ตร.อีก ก่อนที่จะใช้จังหวะที่เจ้าหน้าที่ประสานรถพยายาบาลฉุกเฉินจากรพ.ชัยภูมิ มาช่วยรับตัวนายอิทธิพล ศรีนุกุล อายุ 34 ปี ชาวชุมชนเมืองเก่า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็น รปภ.ของสถานบันเทิงดังกล่าวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ออกจากพื้นที่ไปส่ง รพ. กลุ่มโจ๋จึงเห็นท่าไม่ดีรีบอาศัยจังหวะพากันขึ้นรถยนต์เก๋งขับหลบหนีออกจากพื้นที่ไป
ซึ่งล่าสุดแพทย์ลงความเห็นว่า รปภ.ยังมีอาการยังสาหัส มีอาการเลือดคลั่งในสมอง ดังจมูกหัก ใบหน้าผิดรูปและมีอาการช้ำใน แพทย์ต้องนำตัวเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู และเตรียมส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดช่วยชีวิตเป็นการด่วนต่อไป
และวันนี้เอง 24 ต.ค.62 ความคืบหน้าล่าสุด ทางด้านพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ได้เร่งสั่งการให้ กับพ.ต.อ. รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ เร่งติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว หลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในสถานบันเทิงดังกล่าวพบว่ากลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย รปภ.จนได้รับบาดเจ็บสาหัสครั้งนี้ รวมทั้งหมด 7 คน ก่อนที่กำลังเตรียมที่จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา
ในวันนี้ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุครั้งนี้ทั้งหมดทั้ง 7 ราย เองก็ได้มีการติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อขอเข้ามอบตัวสู้คดีในครั้งนี้ทั้งหมดแล้ว ประกอบด้วยหัวหน้าทีมโจ๋ครั้งนี้ตามหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดที่สวมเสื้อสีดำสวมแว่น คือ 1.นายนายธนาธิษณ์ มากสิน อายุ 22 ปี ชาวตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 2. นายคมกริช เดสันเที๊ยะ อายุ 24 ปี ชาวตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ 3.นายศราวุธ หวะสุวรรณ อายุ 24 ปี ชาวตำบลภูแลนคา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ 4.นายธนเดช พยัคร์มาก อายุ 32 ปี ชาวตำบลดงขวาง อำเภอหนองบาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี 5. นายชาญนเรศ ลายเสือ อายุ 29 ปี ชาวตำบลบ่อทอง อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ( ที่เข้ามอบตัวก่อนใครแล้วแล้วมาตั้งแต่วานนี้ที่ยังโดนคดีกล่าวดูหมิ่นแจกขอลับ จนท.ตำรวจด้วยอีกคดี) 6. นายชรินทร์ แก้วคำภา อายุ 28 ปี ชาวตำบลท่าเอี่ยม อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา และ 7.นายจตุรงค์ มากสิน อายุ 30 ปี ชาวตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
โดยนายธนาธิษณ์ อายุ 22 ปี ชาวจ.นครราชสีมา หัวหน้ากลุ่มโจ๋ในครั้งนี้ อ้างว่าการที่พากันเดินทางมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ หลังจากที่เห็นข่าวจากสื่อทีวีช่องต่างๆจำนวนมาก ที่มีรูปตนและพวกก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายนายอิทธิพล อายุ 34 ปี ซึ่งเป็น รปภ.ผับดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส
จึงได้พากันเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า พวกตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการปล่อยเงินกู้อ้างเส้นใหญ่ดังกล่าวแต่อย่างใดๆเลยในครั้งนี้ด้วย และในการร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นพวกตนกระทำไปเพื่อเป็นการป้องกันตัวเพราะพวกของตนถูกเจ้าหน้าที่การ์ดสถานบันเทิงดังกล่าวทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บก่อน จึงเป็นเหตุต้องป้องกันตัวและตนไม่ใช่คนบงการและยอมรับว่ารู้จักกับกลุ่มบุคคลที่รุมทำร้ายร่างกายการ์ด รปภ.คนดังกล่าว และพวกตนเป็นเพียงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา เพื่อมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนในจังหวัดชัยภูมิอีกหลายจังหวัดเท่านั้นเอง จึงขอปฎิเสธตามที่เป็นข่าวทุกกรณี เพื่อขอความเป็นธรรมต่อกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วย
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และพกพาอายุปืนไปในที่สาธารณะและยิงปืนในที่สาธารณะ เพื่อนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ส่วนด้านนางพิสมัย ศรีนุกุล อายุ 67 ปี มารดานายอิทธิพลฯการ์ด รปภ.สถานบันเทิง ผู้ได้รับาดเจ็บสาหัส จากการถูกรุมทำร้ายครั้งนี้ได้เดินทางมา รอขอดูหน้าผู้ต้องหาทั้งหมด ที่พากันเข้าพบตำรวจในครั้งนี้ด้วย พร้อมกล่าวว่ากับผู้สื่อข่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการร์ที่เกิดขึ้นมากสงสารลูกชายที่ถูกกระทำเยื้องสัตว์ถูกเข้ารุมตีจนสาหัส
ซึ่งล่าสุดอาการบาดเจ็บของลูก ที่เป็น รปภ.รายนี้ยังคงหน้าเป็นห่วง แพทย์ยังให้น้ำเกลือและเลือด เพื่อดูอาการทางสมอง ก่อนจะที่ให้ร่างกายมีความพร้อมก่อน เพื่อแพทย์จะได้ช่วยทำการผ่าตัดสมองเอาเลือดที่คลั่งอยู่ภายในออก และขณะนี้ยังต้องอยู่ในความดูแลอาการของแพทย์อย่างใกล้ชิดในขณะนี้อีกนานหลายวัน จนกล่าวอาการจะปลอดภัยแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเมื่อใดได้ พร้อมอยากให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่รุมทำร้ายลูกตนเองอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ให้ถึงที่สุดด้วย
