กรุงเทพฯ – นายอลงกรณ์ พลบุตร ชูโมเดลเกษตรโอลิมปิก พร้อมปฏิรูปภาคเกษตร หนุนรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่า คุยใน 6 เดือนเห็นผล
25 ตุลาคม 2562 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “AgriTech สู่มิติเกษตรอัจฉริยะ” ในงานสัมมนา Business Today Forum ‘ทรานส์ฟอร์มเกษตรไทย ฝ่าคลื่นดิสรัปต์ เกษตรอัจฉริยะ ด้วย Big Data” ว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงมาก เมื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ จะสามารยกระดับประเทศไทยให้ยิ่งใหญ่กว่าที่ใครคิด และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่นเดียวกับภาคการเกษตร เมื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย จะทำให้ภาคเกษตรของไทยก้าวหน้าไปสู่เกษตร 4.0 จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำพาภาคเกษตรก้าวข้ามระบบแอนะล็อก ไปสู่ระบบดิจิทัลให้ได้ และเมื่อการปฏิรูปประเทศเกิดขึ้นจะยิ่งทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน การจะไปสู่มิติใหม่ หรือยุคดิจิทัลได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงแนวความคิดครั้งใหญ่ของภาคเกษตร โดยจะใช้โมเดล ”เกษตรโอลิมปิก” ที่จะมี 5 นโยบายหลักในการขับเคลื่อน ประกอบด้วย
1.นโยบายเทคโนโลยีเกษตร จะช่วยยกระดับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใน 6 เดือน ด้วยการสร้างบิ๊กดาต้า ฐานข้อมูลที่สร้างขึ้นจะต้องนำไปใช้ภาคเกษตรกรได้จริง
2.ตลาดนำการผลิต ต้องดูว่าตลาดมีขนาดใหญ่แค่ไหน สินค้าและราคาค้าปลีกในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร การขนส่งเป็นอย่างไร ต้นทุนเท่าไหร่ ต้องมีข้อมูลและเลือกตลาดที่ถูกกับผลิตภัณฑ์
3.การประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งไม่ใช่นโยบายประชานิยม แต่เป็นหลักคิดที่ดีในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ที่ผ่านมา เกษตรกรยังเป็นหนี้จากราคาพืชผลตกต่ำ แต่ถ้ามีการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด จะทำให้เกษตรกรมีกำไรจากการขายผลผลิต และจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรด้วย
4.เกษตรปลอดภัย จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ภาคเกษตรของไทย ที่สำคัญ คือ การทำเกษตรอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักธรรมชาติและเศรษฐกิจพอเพียง
5.เศรษฐกิจการเกษตร ภาคเกษตรจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยมีการบริหารจัดการภายในฟาร์มต่าง ๆ ที่ทันสมัย อาทิ สมาร์ท ฟาร์มเมอร์ เพื่อช่วยยกระดับภาคเกษตรไทยให้ยั่งยืน
ที่ปรึกษา รมว.เกษตร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเกษตรกรไทยมีรายได้เพียง 6,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี ซึ่งถือเป็นรายได้ที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับการเป็นประเทศผู้นำด้านการเกษตร จึงจำเป็นต้องสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรอย่างน้อย 3 เท่า โดยรายได้ต้องไปถึง 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 450,000 บาทต่อคนต่อปี ภายในไม่เกิน 20 ปี แต่ในยุคดิสรัปชันสามารถทำให้เกิดขึ้นเร็วกว่านั้นได้
“กระทรวงเกษตรฯ จะไม่ใช้นโยบายแบบเดิมอีกต่อไป แต่ต้องวางแนวคิดอย่างเป็นระบบ ภายใต้เป้าหมายสำคัญ คือ การยกระดับพัฒนาภาคเกษตรและเพิ่มรายได้เกษตรกร ที่เป็นฐานรากสำคัญของประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งภายใน 6 เดือน(ส.ค.2562-ม.ค.2563) ทุกคนจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ของกระทรวงเกษตรฯ จะเป็นกระทรวงที่มีความก้าวหน้าในการพัฒนา และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมาก ด้วยเป้าหมายการปฏิรูปภาคเกษตรไทย ให้เป็นแชมป์โอลิมปิกเกษตรให้ได้ ซึ่งขณะนี้ไทยส่งออกสินค้าอาหารเป็นอันดับ 12 ของโลก แซงหน้าอินเดีย และใน 20 ประเทศ มีเพียงไทยและเม็กซิโก ที่กระโดดขึ้น 2 อันดับ ดังนั้น จะต้องแซงหน้าอีก 11 ประเทศ ที่อยู่เหนือเราในด้านการเกษตรให้ได้ และรายได้เกษตรกรต้องสูงขึ้น จากที่เคยตกต่ำ ทั้งที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญของโลก” นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าว
