หลังจากที่ น.ส. นวพรรษ ก้อนทอง ได้ประกาศผ่านทางสื่อโชเชียลเพื่อตามหานางออมทรัพย์ การเพียร อายุ 59 ปี ผู้เป็นแม่ ที่เดินทางจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อรีบกลับไปเยี่ยมแม่ที่ป่วย ที่ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา และจะเดินทางไป อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค. เพื่อไปช่วยนายปรีชา ไชยบุญเรือง ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของแม่ เก็บเกี่ยวข้าวที่ปลูกไว้ แต่จู่ๆ ก็ขาดการติดต่อไปความคืบหน้าช่วงเมื่อวันที่ 29 ต.ค. น.ส. นวพรรษ ก้อนทอง ทราบว่ามีผู้แจ้งเบาะแสว่าพบเห็นนางออมทรัพย์ ยืนรอรถริมถนนสายลำปาง – แจ้ห่ม ก่อนมีรถยนต์กระบะอีซูซุแคป สี่ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดก่อนที่นางออมทรัพย์จะหายไปพร้อมกับรถยนต์คันดังกล่าว และได้ประสานขอ จนท.ตร.สภ.แจ้ห่ม ร่วมลงพื้นที่บริเวณหน้าตลาดเช้าบ้านสา ข้างปั๊มน้ำมัน PT ต.บ้านสา เพื่อสอบถามรายละเอียดจากนางอารยา โพธิ์นอก ( นิด ) แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งบริเวณนั้น ซึ่งเป็นผู้พบเห็นและได้พูดคุยกับนางออมทรัพย์ เป็นคนสุดท้ายก่อนหายตัวไปซึ่งจนท.ตำรวจได้เชิญตัว นางอารยา โพธิ์นอก ( นิด ) ไปให้ปากคำเพิ่ม เพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางสืบสวนหาตัวนางออมทรัพย์ ต่อไปจนกระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. พ.ต.ต.บวร ธิต๊ะ สว.สืบสวน สภ.แจ้ห่ม ได้เรียกทีมชุดสืบสวน สภ.แจ้ห่ม ได้ประชุมวางแผนเพื่อจะกระจายกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสเพื่อหาตัวนางออมทรัพย์ การเพียร ขณะที่กำลังประชุม น.ส. นวพรรษ ก้อนทอง บุตรสาวของนางออมทรัพย์ ได้โทรมาแจ้งว่า นางออมทรัพย์ได้เดินทางกลับมาที่บ้านแล้ว ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมที่ค่อนข้างเคร่งเครียด ผ่อนคลายทันที
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงรีบเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 3 หมู่ 4 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง บ้านของนางออมทรัพย์ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่หายออกจากบ้านไปเมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงบ้านของนางออมทรัพย์ พบบรรดาลูกๆ และญาติของนางออมทรัพย์ อยู่ในอาการดีใจที่นางออมทรัพย์กลับมาและปลอดภัย ส่วนนางออมทรัพย์ มีอาการปกติไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดนางออมทรัพย์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนวันเกิดเหตุตนได้บอกลูกสาวว่าตนจะเดินทางมาเยี่ยมแม่ที่ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม 1 คืน จากนั้นจะเดินทางไปหานายปรีชา ไชยบุญเรือง แฟนใหม่ที่คบหากันมาประมาณ 2 ปี เพื่อช่วยเก็บเกี่ยวข้าวที่ปลูกไว้ แต่นายปรีชาได้บอกกับตนว่าข้าวยังเก็บเกี่ยวไม่ได้ ตนจึงยกเลิกเดินทางไปหานายปรีชา ในขณะเดียวกันได้มีเพื่อนสนิทของตนชวนไปทำธุระเป็นเพื่อนที่ต่างจังหวัดซึ่งตนก็ตัดสินใจไปด้วย แต่ไม่ได้บอกลูกๆ และญาติๆ ไว้ ประกอบกับเป็นจังหวะที่โทรศัพท์มือถือของตนเสียเปิดเครื่องไม่ได้ ตนเองก็จำเบอร์โทรของลูกสาวหรือของญาติไม่ได้เพราะปกติเวลาโทรตนจะดูจากเบอร์โทรที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์
ข่าวน่าสนใจ:
- คอกาแฟแห่เที่ยวงานพังงาคอฟฟี่เจอร์นี่ ซีซั่น 3 ภายใต้รูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Coffee in the Park ในสวนสมเด็จฯพังงา
- ผู้ใหญ่บ้านร่วมกับชุมชน จัดทำบุญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
- ระทึก ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องโฟมใส่อาหารหวิดวอดหมดหลัง
- ชมรมโฮปฯ ร่วมกับชุมชน จัดกิจกรรม ซานตาโฮป แจกของขวัญให้กับเด็กในชุมชนกว่าพันชิ้น
นางออมทรัพย์ ยังบอกเพิ่มเติมว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งตนไม่คิดว่าทุกคนจะเป็นห่วงและออกติดตามหา เนื่องจากตนตั้งใจว่าไปไม่นานจึงไม่ได้พยายามหาวิธีติดต่อแจ้งลูกและญาติทราบ ตนเองยอมรับผิดและต้องขอโทษทุกๆ คน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน และขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่เป็นห่วงและช่วยแชร์ข่าวออกตามหาตนเอง นางออมทรัพย์ได้กล่าวด้วยอาการรู้สึกผิด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: