X

รพ.พญาไท 2 ยืนยัน รักษาไม่ผิดพลาด หลังสาวระยองอ้างปล่อยเลือดไหลเกือบชม.

ที่จ.ชลบุรี รพ.พญาไท 2 ร่อนแถลงการณ์ กรณีสาวป่วยเป็นโรคพุ่มพวงอ้างรพ.ดังปล่อยเลือดไหลเกือบชม. ยืนยันรักษาตามหลักมาตรฐานไม่มีข้อผิดพลาด

ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เพิ่มเพื่อน

สืบเนื่องจากกรณีน.ส.เขมจิรา วงศ์ศิริปภากุล อายุ 30 ปี ที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ไทย ป่วยเป็นโรคพุ่มพวง อ้างเข้าไปรักษาที่ร.พ.ดัง แต่ถูกปล่อยทิ้งจนเลือดไหล 45 นาทีไม่มีพยาบาลดูแล แถมปิดแผลผิดที่ติดเชื้อต้องพักงานเป็นเดือน จนต้องเข้าแจ้งความตำรวจสภ.เสม็ด จ.ชลบุรีเพื่อขอความเป็นธรรม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >> ร้องรพ.ไม่ดูแล ปล่อยเลือดไหล 45 นาที แถมปิดแผลผิดจนติดเชื้อ

ล่าสุดโรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ออกแถลงการณ์ เพื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า “กรณีข่าวคนไข้หญิงวัย 30 ปี เข้ารับการตรวจรักษาจากทางโรงพยาบาลฯ และมีภาพเลือดหยดในขณะให้น้ำเกลือ ตามที่ปรากฎในข่าวนั้น

เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของผู้ป่วยโรงพยาบาลไม่อาจเปิดประวัติการรักษาของผู้ป่วยรายดังกล่าวได้ แต่ถือโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง โดยแสดงถึงจุดยืนในการรักษาแก่ผู้ป่วยตามหลักมาตรฐานและหลักมนุษธรรม ที่ได้ปฏิบัติตลอดระยะเวลายาวนานที่ผ่านมา  ทั้งนี้โรงพยาบาลฯ ยืนยันว่าในทุกขั้นตอนการรักษาพยาบาลผู้ป่วยรายดังกล่าว  ไม่พบข้อผิดพลาดจากการให้การพยาบาล พร้อมทั้งมีการตรวจสอบบริเวณเข็มเจาะให้น้ำเกลือว่ามีการปิดสนิทและแน่นหนาโดยละเอียด ซึ่งตามปกติหากไม่มีการดึงรั้งหรือกระทำรุนแรงในบริเวณดังกล่าวโอกาสในการหลุดหรือขยับเป็นไปได้ยาก

ข้อปฏิบัติการให้สารน้ำทางหลอดเลือด

1. เช็คและทำความสะอาดบริเวณที่จะแทงเข็ม โดยเลือกตำแหน่งที่เห็นเส้นเลือดชัดเจน โดยห้ามเป่าหรือโบกในบริเวณที่ทำความสะอาดแล้ว

2. เตรียมเข็มที่จะแทง อุปกรณ์ที่ต้องใช้  และเลือกตำแหน่งที่จะแทงหลอดเลือดดำให้เหมาะสม  หลีกเลี่ยงการแทงบริเวณใกล้ข้อ เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวบ่อย และอาจเกิดการบาดเจ็บของเส้นประสาท

3. สื่อสารผู้ป่วย/ผู้ดูแล ให้เข้าใจเหตุผลความจำเป็นและขั้นตอนการแทงสาย เตรียมชุดให้สารน้ำ ตรวจสอบตัวยาที่จะให้ว่าไม่มีปฏิกิริยาต่อกัน ตรวจสอบลักษณะของสารน้ำว่าไม่มีลักษณะผิดปกติ เคร่งครัดในเรื่องความสะอาดและเทคนิคปลอดเชื้อดูแลบริเวณตำแหน่งที่ให้สารน้ำและประเมินผิวหนังบริเวณที่แทงเข็ม เพื่อเฝ้าระวังอาการแดง ปวด บวม และสอบถามอาการผู้ป่วย เช่น ปวด ชา แสบ ตึง และตรวจสอบข้อต่อและบริเวณที่ปิดเข็มว่าไม่มีโอกาศที่จะขยับหรือเลื่อนหลุด

4. ถ้าผู้ป่วยพบว่า มีการเคลื่อน หลุด ให้เรียกแจ้งแก่พยาบาลทันที

ซึ่งโรงพยาบาลฯ ยังพบความผิดปกติจากพฤติกรรมของผู้ป่วยรายดังกล่าวที่แสดงถึงเจตนาทำให้โรงพยาบาลๆ ได้รับความเสียหายและเรียกร้องค่าเสียหายเป็นมูลค่าสูงเกินความเป็นจริง ซึ่งส่งผลถึงชื่อเสียงและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ดูแลผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด

โดยโรงพยาบาลฯ ได้มีการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฏหมาย เพื่อพิสูจน์ทราบถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นและขอยืนยันอีกครั้งว่า โรงพยาบาลได้ให้การรักษาตามมาตรฐานในทุกขั้นตอน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน