นครพนม – วันที่ 31 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม ได้รับการร้องทุกข์จากสองพี่น้องคือ นางลำไพ ชานุชิต อายุ 47 ปี และ นางพิสมัย ชานุชิต อายุ 42 ปี ว่า นางวิสัย ชานุชิต อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 190 หมู่ 1 ต.ยอดชาด อ.วังยาง จ.นครพนม ถูกรถยนต์ตราโล่ของ สภ.วังยาง เฉี่ยวชนบริเวณสี่แยกวัดป่าบ้านยอดชาด หมู่ 1 ทางหลวงชนบทหมายเลข นพ.4026 (สายหนองหอย-ด่านม่วง)คำ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนครพนมในวันที่ 13 ตุลาคม โดยตั้งแต่วันที่ได้รับอุบัติเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากคู่กรณี หวั่นเรื่องจะเงียบหายจึงมาร้องสื่อดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่บ้านยอดชาดหมู่ 1 เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง พบบ้านเลขที่ดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวยกพื้นสูง เพิ่งจะผ่านงานศพไปได้ไม่นาน ใต้ถุนบ้านพบนางหงษ์ทอง ชานุชิต อายุ 76 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินเหินไม่ได้ และนายแก้ว ชานุชิต อายุ 77 ปี สามี คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ โดยทั้งสองเป็นพ่อแม่ของนางวิสัยผู้ตาย ขณะเดียวกันก็พบกับนางลำไพกับนางพิสมัยผู้ร้องทุกข์นั่งอยู่กับนางหงส์ทองด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- นครพนมคึกคัก! เปิดศึกเลือกตั้ง อบจ. วันแรก “ศุภพานี-ประสงค์” ชิงชัย พร้อมนโยบายพัฒนาท้องถิ่น
เบื้องต้นนางพิสมัยผู้เป็นน้องสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่านางวิสัยผ่านการมีครอบครัวมาสองครั้ง มีบุตรต่างบิดา 2 คน คือ น.ส.อารยา ชานุชิต อายุ 21 ปี ทำงานอยู่จังหวัดนครราชสีมา และ ด.ญ.ปาริชาติ กงนะ อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 แต่ชีวิตครอบครัวล้มเหลวทั้งสองครั้ง จึงรับภาระดูแลลูกทั้งสองคน จน น.ส.อารยา เรียนจบและได้งานทำที่จังหวัดนครราชสีมา ต่อมานางหงษ์ทองผู้เป็นแม่ก็ล้มป่วยจนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง นางวิสัยจึงรับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัวดูแลพ่อแม่และลูกรวม 3 ชีวิต ญาติพี่น้องก็แวะมาช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว
วันที่ 12 ตุลาคม ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 06.00 น. นางวิสัยได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำ-แดง ทะเบียน 1 กก 3236 ระยอง ไปเก็บดอกดาวเรืองที่ปลูกไว้ในพื้นที่นา ห่างจากบ้านประมาณ 4-5 กม. เพื่อจะนำมาถวายพระเนื่องในวันออกพรรษาที่ 13 ตุลาคม หลังเก็บดอกไม้ได้ตามความต้องการก็ขับรถ จยย.กลับบ้าน ซึ่งจากทุ่งนามาเป็นถนนลูกรัง จนมาถึงบริเวณสี่แยกทางหลวงชนบท นพ.4026 เป็นถนนราดยางมะตอยสายหลักเชื่อมระหว่างรอยต่อหมู่บ้านในจังหวัดนครพนมกับสกลนคร ปรากฏว่ารถ จยย.ได้พุ่งขึ้นมาบนถนนใหญ่ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่รถกระบะตราโล่ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 6 กค 5451 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.วังยาง มี ดต.พรศักดิ์ เมืองวัง เป็นพลขับ วิ่งมาพอดีจึงเกิดการเฉี่ยวชนด้านขวาของรถยนต์ ทำให้รถ จยย.ล้มคว่ำพร้อมกับร่างของนางวิสัยหัวกระแทกพื้นถนน มีเลือดไหลออกจากศีรษะ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็หยุดรถ มีผู้แต่งกายชุดตำรวจ 3 นาย และสวมใส่ชุดปกติทั่วไป 1 คน เดินลงมาจากรถ พร้อมโทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ 1669 โรงพยาบาลวังยาง ให้นำรถฉุกเฉินมารับตัวผู้บาดเจ็บ
ระหว่างรอรถพยาบาลก็มีนางเถียน จันชะนะ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 14 หมู่ 1 ต.ยอดชาด ผ่านมาประสบเหตุจะเข้าไปจับตัวนางวิสัยที่นอนหายใจรวยริน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ เพราะนางเถียนไม่มีความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาจจะทำให้คนเจ็บได้รับบาดเจ็บเพิ่ม ต่อมานายเฉลียว ชัยบุญมา อายุ 62 ปี อดีต ผอ.รร.บ้านหนองบึง ต.ยอดชาด ขับรถมาเจอก็ได้บันทึกภาพเหตุการณ์บางช่วงไว้ กระทั่ง พ.ต.ท.ยงยุทธ ผิวพรรณ์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.วังยาง ผู้เป็นร้อยเวรมาถึงที่เกิดเหตุ และมีความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จึงนำร่างของนางวิสัยขึ้นรถยนต์ไปส่ง รพ.วังยาง แพทย์ตรวจแล้วเห็นว่าอาการสาหัสจึงส่งต่อไปยัง รพ.นครพนม และเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น
หลังนำร่างของนางวิสัยมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคู่กรณีนำเงินใส่ซองช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 5,000 บาท โดยยืนยันว่า พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ คงศักดิ์ตระกูล ผกก.สภ.วังยาง จะช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตเต็มความสามารถ พร้อมเรียกบริษัทประกันภัยมามาตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชน เพื่อเรียกร้องค่าสินไหม เพราะรถยนต์ตราโล่ทำประกันภัยชั้นหนึ่งไว้ ขณะที่ตัวแทนบริษัทประกันภัยเผยว่า การจะจ่ายค่าสินไหมให้ในกรณีที่ผู้เสียชีวิตเป็นฝ่ายถูก หากตรงกันข้ามหรือมีส่วนประมาทประกันก็จะไม่จ่าย
จากการตรวจสภาพรถยนต์พบว่า ด้านขวาตั้งแต่ไฟหน้า กระจกมองข้าง และด้านข้างขวาของตัวรถ มีร่องรอยเฉี่ยวเป็นทางยาว จนกระจกมองข้างตกอยู่บนพื้นถนน ขณะที่รถ จยย.ของผู้ตายล้มคว่ำอยู่ในกลางถนนด้านเลนขวา ลักษณะดังกล่าวคล้ายผู้เสียชีวิตขับ จยย.ออกจากทางลูกรังโดยไม่ได้มองซ้ายขวา จึงเป็นเหตุเฉี่ยวชนเกิดขึ้น ประกอบกับญาติของผู้ตายเรียกร้องเงินสินไหมสูงถึง 1 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอต่อรองแต่ไม่มีใครฟัง กล่าวหาว่าตำรวจพลิกลิ้น จึงร้องเรียนสื่อดังกล่าว
พ.ต.ท.ยงยุทธ ผิวพรรณ์ เจ้าของคดี เปิดเผยว่าลักษณะการเฉี่ยวชนก็พอจะยืนยันได้ว่าใครผิดใครถูก แต่จะไม่ขอพูดในรายละเอียดตรงนั้น ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งเฉยลงขันเรี่ยไร่เงินได้มาจำนวนหนึ่ง ขณะที่ทาง ผกก.สภ.วังยาง ก็ได้ให้ทางบริษัทประกันภัยช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ก็พอมีตัวเลขอยู่ในใจแล้ว รอให้ญาติฝ่ายผู้ตายอารมณ์เย็นลงก่อนค่อยมาเจรจากันใหม่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: