สงขลา – สะเดา พ่อค้าแม่ค้า ชาวปาดังเบซาร์ ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย จับกุมตัวรวม 21 คน เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งประสานให้ความช่วยเหลือ ล่าสุดปล่อยตัวส่งกลับแล้ว 5 คน คงเหลืออีก 16 คน รอลุ้นหลังเจ้าของร้านชาวมาเลเซีย ขึ้นศาลจ่ายค่าปรับ วันที่ 4 พ.ย.นี้
2 พ.ย. 62 ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย จับกุมตัวชาวไทย 21 คน ซึ่งเป็นพ่อค้า – แม่ค้า ชาวปาดังเบซาร์ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะที่เข้าไปขายสินค้าในประเทศมาเลเซีย บริเวณพลาซ่า ปาดังแวร์มาร์ท รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน “ Work Permit ” เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 – 20 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดนายสุบัญฑิตย์ ไชยแก้ว ปลัดอำเภอสะเดา บอกว่าได้รับการประสานจากกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง ว่าคนไทยที่ถูกจับกุมตัวในข้อหา ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือ “ Work Permit ได้ถูกปล่อยตัวและส่งกลับแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ต.ค. จำนวน 5 คน ตามรายชื่อ 1. นายรอฮีม มาแซ อายุ 29 ปี 2.นางสีตีมารีแย ดือราโอ๊ะ อายุ 53 ปี 3.นางสาวอารีนี หะยีมะหะ อายุ 24 ปี 4.นางสาวกามีละห์ ตาเละ อายุ 33 ปี 5.นางสาวเจะมีเนาะห์ กูโน อายุ 35 ปี
ส่วนเมื่อวานนี้ 1 พ.ย. 62 เวลา 09.30 น. ( ตามเวลาในไทย ) นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา ได้มอบหมายให้ตนเอง เดินทางเข้าเยี่ยมพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่ยังถูกควบคุมตัว อยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย เมืองกางะร์ รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ประกอบด้วยชาย 4 คน ผู้หญิง 12 คน
ซึ่งคนไทยทั้ง 16 คนได้จ่ายค่าปรับขั้นต่ำสุด ตามคำพิพากษาของศาลแล้ว คนละ 300 ริงกิต แต่ทางมาเลเซียยังไม่ปล่อยตัว เนื่องจากได้กันตัวคนไทยทั้ง 16 คน ไว้เป็นพยาน และต้องให้ข้อมูลในเรื่องที่เกิดขึ้นแก่ศาลอีก โดยวันที่ 4 พ.ย. เจ้าของร้านค้าชาวมาเลเซียที่จ้างคนไทย ทั้ง 16 คน จะต้องไปขึ้นศาลมาเลเซีย เพื่อฟังคำตัดสิน
และคาดว่าเจ้าของร้านจะต้องจ่ายค่าปรับ เป็นจำนวนเงินรายละ 5,000 ริงกิต ทางการมาเลเซีย ถึงจะปล่อยตัวคนไทย และส่งกลับประเทศ ซึ่งทางมาเลเซียได้ดูแล จัดให้มีการตรวจสุขภาพทุกคน จากการพูดคุย พบว่าทุกคนมีสุขภาพและขวัญกำลังใจที่ดี และเฝ้ารอการปล่อยตัวกลับประเทศ คาดว่าหลังจากวันที่ 4 พ.ย. คงมีคำตอบที่ชัดเจน
