สัมภาษณ์พิเศษ วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ถึงการกลับมาอีกครั้งของทีม”จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด
อีสานบิซ : การกลับมาครั้งนี้เรามีการฟอร์มทีมยังไงบ้าง ?
วัฒนา : เรื่องการถูกพักทีมไปก็ถือว่าทุกอย่างจบเรียบร้อยหมดแล้ว ก็คือได้มีการคืนสิทธิให้กับขอนแก่นยูไนเต็ดและรับรองสมาชิกของทีม
เราได้ทำการถอนฟ้องทุกอย่างที่เราได้ฟ้องไว้ช่วงก่อนหน้านี้และก็ทำเรื่องเพื่อขอเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งทางสมาคมก็ตอบรับกลับมาแล้วว่าปีนี้ถ้าเราส่งคลับไลเซนซิ่งทันภายในวันที่ 26 มกราคมนี้ เราก็ได้สิทธิในการเข้าร่วมการแข่งขันในปี 2018 ครับ
อีสานบิซ : จะไปแข่งในดิวิชั่นไหน ?
วัฒนา : อยู่ในลีกที 4 ครับก็คือดิวิชั่น 2 เดิม ตอนนี้มีอยู่ 13 ทีมในโซนอีสานถ้ารวมเราเข้าไปก็จะเป็น 14 ทีมพอดีก็จะครบคู่ในการแข่งขันแต่ละสัปดาห์
อีสานบิซ : ช่วงที่หายไปมีการเตรียมตัวอะไรยังไงบ้างครับ?
วัฒนา : ช่วงที่เราไม่ได้แข่งเมื่อประมาณปีกว่าๆ ที่ผ่านมา เราก็ไม่ได้นิ่งเฉยเราได้ทำทีมเยาวชนทีมอะคาเดมีของเราอยู่ตลอดครับก็คือเราไม่ได้หยุดเลยถึงแม้ว่าทีมชุดใหญ่จะพักแต่เราก็มองว่าสักวันเราก็จะได้กลับมาอีกครั้ง
ดังนั้นการเตรียมความพร้อมก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เราจับมือทั้งโรงเรียนกีฬา โรงเรียนแก่นนคร ม.ภาค (มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เด็กของเราที่จบในม.6 เกือบทั้งหมดนะครับ จะเข้าไปอยู่ที่ม.ภาคครับ
ม.ภาคจากเดิมเขาเงียบๆไปในเรื่องกีฬาจะมีเพียงฟุตซอล พอเด็กของเราเข้าไปได้โควตานักกีฬาอะไรประมาณนี้นะครับ ม.ภาคก็ได้เข้ารอบหน่อย จากแต่ก่อนไม่เคยเข้ารอบสุดท้าย ตอนนี้พอได้เด็กของเราเข้าไปผลงานของม.ภาคก็ดีขึ้นมันก็เป็นการร่วมมือกันอะไรประมาณนี้ครับ
ก็คือเราทำทีมเยาวชนไว้อยู่ตลอดพอเราได้กลับมาตัวจะเป็นกำลังของเราถึงเขาจะไม่ได้เล่นทีมเราช่วงปีที่ผ่านมาเขาก็ไปเล่นลีกแชมป์เปี้ยนชิพ (ดิวิชั่น3)ให้ทีมอื่นโดยสัญญายืมตัวอะไรประมาณนี้นะครับ
อีสานบิซ : ก็คือนักเตะยังเป็นชุดเดิม?
วัฒนา : นักเตะชุดใหญ่ของเดิมเราปล่อยไปเกือบทั้งหมดที่เก็บไว้ก็จะเป็นนักเตะเยาวชนที่เราเริ่มสร้างมาตั้งแต่เราเริ่มทำทีมประมาณนี้นะครับ
อีสานบิซ : ตอนนี้ก็คือจะสร้างทีมขึ้นมาใหม่จากเยาวชน ?
วัฒนา : เปล่าครับก็ถ้าพูดถึงทีมใหม่ด้วยใช่ไหมครับก็คือเยาวชนเรามีส่วนหนึ่งและนักเตะใหม่ที่เราดึงตัวเข้ามาก็มีอีกส่วนหนึ่ง ก็อาจจะมีหน้าเดิมบ้างหน้าใหม่บ้าง เพราะแต่ละคนช่วงที่ไม่ได้เตะเขาก็ไปเตะทีมอื่น ก็มีสัญญากับทีมอื่นด้วยอะไรประมาณนี้ครับ
แต่ว่าต้องเรียกว่านักเตะชุดเยาวชนของเรา ค่อนข้างจะเก่งนะครับ เพราะว่าชุดเยาวชนมีตั้งแต่อายุ 13, 15 ,17, 19 ทุกชุดของเราเข้ารอบลึกหมดเลย
อย่างเช่นเยาวชนโค้กคัพที่พึ่งแข่งเสร็จไปขอนแก่นมี 2 ทีมนะครับ ก็คือ ขอนแก่นเอฟซี กับ ขอนแก่นยูไนเต็ด ขอนแก่นเอฟซีเขาจะแข่งอยู่โซนอีสานเหนือ
ขอนแก่นยูไนเต็ดจะได้ไปแข่งโซนอีสานใต้เราแพ้ทีมเดียว คือบุรีรัมย์ก็เลยตกรอบไม่งั้นเราก็เข้ารอบก็ถือว่าเป็นงานยากเหมือนกันนะครับ บุรีรัมย์เขาเอา “ศุภชัย ใจเด็ด” ตัวทีมชาติลงเล่นฟูลทามเลยก็ยอมรับว่าประสบการณ์เด็กของเรายังน้อยกว่าเขาอยู่แต่ว่าต้องมีสักวันละครับที่เราล้มบุรีรัมย์ได้ครับผม
อีสานบิซ : เป้าหมายการทำทีมในการกลับมา?
วัฒนา : เป้าหมายปีนี้แน่นอนครับก็ต้องเลื่อนชั้นขึ้น ที 3
อีสานบิซ : แล้วคิดว่าจะขึ้นไทยลีกจะใช้เวลากี่ปี?
วัฒนา : กี่ปีใช่ไหมครับ ตอนนี้เราอยู่ T 4 เร็วที่สุดมันก็ประมาณ 3 ปีครับ อันนี้คือเป้าหมายที่เร็วที่สุด แต่ถามว่าง่ายไหมต้องบอกเลยว่าไม่ง่ายแน่นอน เนื่องจากว่าปีนี้เราได้รับคำตอบช่วงต้นเดือนมกราคมเรามีเวลาเตรียมทีมก่อนจะแข่งแค่ประมาณ 1 เดือน เพราะว่าเริ่มแข่งวันที่ 11กุมภาพันธ์
ดังนั้นระยะเวลา 1 เดือน ทั้งหาตัวโค้ช ทั้งหานักบอล ทั้งเริ่มซ้อม ต้องบอกว่ามันเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นแต่มันก็เป็นอีกความท้าทายหนึ่งของเรานะครับ ซึ่งถามว่าเรามองว่ายังไงเรามองว่าเรามีสิทธิขึ้นด้วยศักยภาพของเราที่เรามีคิดว่ามีโอกาสค่อนข้างสูงครับ
อีสานบิซ : โค้ชนี้ยังไม่มีใช่ไหมครับ ?
วัฒนา : ตอนนี้ยังให้คำตอบชัดเจนไม่ได้นะครับก็มีโอกาสที่เราจะใช้โค้ชชุดเยาวชนของเรา อาจจะเป็นโค้ชเยาวชนแล้วก็ดันขึ้นมาทำทีมชุดใหญ่ประมาณนี้ครับ
อีสานบิซ : แล้วจะใช้สนามไหนครับ ?
วัฒนา : แน่นอนครับต้องเป็นสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัด สนามกีฬากลางครับ ขอพูดเรื่องโค้ชนิดหนึ่ง ทำไมเราถึงจะดันโค้ชเยาวชนเราขึ้น เนื่องจากว่าช่วงเมื่อกี้เราทำทีมเยาวชนของเราเป็นหลักซึ่งโค้ชชุดนี้เขาจะเห็นหมดแล้วว่านักกีฬาคนไหน อะไร เป็นยังไง
ใครที่มีความพร้อมใครที่มีศักยภาพในการดันชุดเยาวชนของเราขึ้น เราเคยมีประสบการณ์จากตอนที่เราเคยทำทีมที 2 ดิวิชั่น 1 เดิม ตอนนั้นคือ เราใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ทั้งหมด โดยที่เราไม่ให้โอกาสเด็กเลย
ดังนั้นปีนี้เมื่อเรากลับมา โอเคกติกาเขามีอยู่ว่าต้องให้ต่ำกว่า 21 ปีลง 2 คน ซึ่งมันเป็นแนวทางเดียวกันกับที่เราต้องการอยู่แล้วว่า เราต้องการจะดันเด็กอย่างน้อยต้อง 3 คนหรือ 4 คน เพื่อให้เกิดซุปเปอร์สตาร์ดวงใหม่ของทีมของจังหวัดขึ้นมาประมาณนี้ครับ
คือ ถ้าเราใช้แต่คนเก่งๆลงมาโอเคทีมเก่งแน่นอนแต่ว่าเมื่อไหร่เด็กจะได้เกิดโมเดลเราจะคล้ายๆบุรีรัมย์ตอนนี้บุรีรัมย์เด็ก 18 ปี เล่นชุดใหญ่ละดังนั้นมันต้องเกิดจากการให้โอกาสเขาให้เขาได้เล่นตัวจริง ได้ให้เขาแสดงฝีเท้า
ถ้าเขาไม่ได้ลงเล่นเลยโอกาสที่เขาจะแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่มันก็ไม่มีเลย ดังนั้นปีนี้เราต้องการที่จะให้เด็กเข้ามีส่วนร่วมแต่ไม่ใช่ว่าทั้งทีมของเรามีแต่เด็ก
เรามีตัวเก่งๆตัวต่างชาติที่เคยเล่นไทยลีกที่เคยเล่นระดับดิวิชั่น 1 หรือแม้แต่ตัวคนไทยที่เคยเล่นทีมชาติมาก่อนซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 29 มกราคม
อีสานบิซ : การกลับมาครั้งนี้เพื่อให้ชาวขอนแก่นมั่นใจหรือเอาใจคนขอนแก่นเหมือนที่ครั้งนี้เราวางเป้าหมายอย่างไร ?
วัฒนา : ครับการที่เรากลับมาครั้งนี้นะครับ ก็ต้องบอกว่าต้องขอบคุณแฟนบอลก่อนที่ยังรักและศรัทธาในทีมของเรานะครับ ดังนั้นเราจะตอบแทนอย่างเต็มที่แน่นอนครับ ตรงนี้อยากให้ความมั่นใจในทีมและก็ผู้บริหาร นักกีฬา และก็สต๊าฟทุกคนเต็มที่แน่นอนเพื่อตอบแทนแฟนบอลครับ
อีสานบิซ : อะไรที่เป็นแรงทำให้ฮึดที่จะทำตรงนี้ต่อไป?
วัฒนา : ทำไมเราถึงยังอยากกลับมาทำทีมฟุตบอลใช่ไหมครับ เป็นความสุขที่เราได้ทำ การทำทีมฟุตบอลมันมีแต่ขาดทุน มันไม่มีใครได้กำไรจากฟุตบอลนะครับ แต่เราได้อะไรมากกว่านั้น
เราได้รับความรัก เราได้รับแรงศรัทธา เรามีความสุขเวลาฟุตบอลชนะ เราเศร้าเวลาเราแพ้ เวลาเราเดินลงไปในสนามแล้วเห็นหน้าแฟนบอล ทำให้เรามีกำลังใจ มันทำให้เรามีแรงฮึด ดังนั้นเราจึงอยากกลับมาเพื่อความสุขของคนขอนแก่นอีกครั้งหนึ่งครับ
…………………….
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: