ที่ห้องประชุมอาคารต้อนรับและให้ความรู้เชิงทฤษฎี ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำดอกกราย ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินการ “โครงการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ในศูนย์ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง” โดยมีเกษตรกรกรชาวไร่สับปะรด จำนวน 10 คน นำรถบรรทุกสับปะรดมาเต็มคัน จำนวน 3 คัน มายืนรอยื่นหนังสือเรียกร้องแก้ไขปัญหาผลผลิตสับปะรดล้นตลาด ประจำปี 2561 โดยขอให้รับซื้อสับปะรดราคา 4 บาทต่อกิโลกรัม โดยนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกจากห้องประชุมมารับหนังสือกลุ่มเกษตรกรดังกล่าว
นายเสถียร เสือขวัญ ประธานกลุ่มผู้ปลูกสับปะรดจังหวัดระยอง กล่าวว่า ประเทศไทยในช่วงเดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมามีสภาพอากาศหนาวเย็นและมีฝนตกชุกต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นสับปะรดในแปลงปลูกของเกษตรกร ออกดอกติดผลพร้อมๆ กันทั่วประเทศ ทำให้ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2561 นี้ มีผลผลิตสับปะรดออกสู่ตลาดจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาตกต่ำอย่างเนื่อง ปัจจุบันมีราคา กก.ละ 2.30 บาท ต่ำกว่าต้นทุนปลูก เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรชาวไร่สับปะรดในจังหวัดระยอง จึงขอความอนุเคราะห์ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ช่วยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตามนโยบายรับซื้อผลผลิตสับปะรดส่วนเกินไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ เพื่อดูดซับปริมาณผลผลิตออกจากระบบ ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างดี และขอเสนอให้รับซื้อจากเกษตรกรที่กิโลกรัมละ 4 บาท เพื่อเป็นการชี้นำตลาดและพยุงราคาไม่ให้ตกต่ำจนเกินไป
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ ได้สั่งให้ดูแลเป็นพิเศษ โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในเบื้องต้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 8 จังหวัดที่มีการปลูกสับปะรด ได้สั่งการโดยการค้าภายในของงบประมาณไปแล้ว 40 ล้านบาท มาเป็นค่าบริหารจัดการสับปะรดกระจายออกนอกพื้นที่ โดยรับซื้อใน กก.ละ 4 บาท นอกจากนี้ยังได้สั่งการกรมปศุสัตว์ไปสำรวจสัตว์ที่สามารถกินสับปะรดได้ โดยให้การค้าภายในและปศุสัตว์จังหวัดในแต่ละจังหวัดของบประมาณไปอีกส่วนหนึ่งมาซื้อสับปะรดเป็นเป็นอาหารสัตว์ ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการทุเลาความเดือดร้อนเบื้องต้น ทั้งนี้ในปีต่อไปได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปวางแผนการผลิตพืชบอกเกษตรกรให้ชัดเจนว่าควรจะปลูกจำนวนเท่าไร่ กี่ไร่ เป็นต้น เพื่อลดปริมาณผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดอันจะส่งผลให้มีการล้นตลาดและราคาตกต่ำ
ด้านนาย สุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เผยว่า ผลผลิตสับปะรดล้นตลาด ในช่วงนี้ ทางจังหวัดได้ระดมความช่วยเหลือ และการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น และระยาว เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดย ในช่วงเร่งด่วน ได้ให้ สำนักงานพานิชย์ และสหกรณ์ร่วมกับหน่วยงานทางภาคราชการและเอกชน ให้ช่วยส่งเสริมการบริโภคสับปะรดผลสด โดยประสาน ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ให้ส่งเสริมผู้ใช้แรงงานได้ช่วยกินสับปะรด และเตรียมส่งสับปะรดไปยังเครือข่าย จังหวัดอื่นๆ ส่วนในระยะยาว จะดูทั้งการปลูกสสับปะรดและมันสัมปะหลัง ให้ปลูกสลับกัน เพื่อรักษาสมดุลของปริมาณการปลูกและความต้องการในแต่ละช่วง
