ที่ห้องประชุมอาคารต้อนรับและให้ความรู้เชิงทฤษฎี ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ต.แม่น้ำคู้ อ.แลวกแดง จ.ระยอง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินการ “โครงการโครงการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ในศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง” ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดระยอง อบจ.ระยอง สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน)(Gistda) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สวทช.) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว จะพัฒนาศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดง จ.ระยอง พื้นที่ทั้งหมด 1.3 พันไร่ ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชและไอทีสมัยใหม่ เพื่อพัฒนาเกษตรกรไทยไปสู่ “เกษตรอัจฉริยะ 4.0” และผลักดันให้เป็นศูนย์กลางเรียนรู้การทำการเกษตรสมัยใหม่ครบวงจรและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระราชแนวทางการดำเนินงาน เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2523 คือ 1.พัฒนาด้านการเกษตร โดยเฉพาะด้านปศุสัตว์และการประมงเพื่อบริโภคและสำรองอาหาร 2.มีศูนย์ฝึกปฏิบัติการด้านประกอบอาชีพ โดยมีแปลงสาธิต ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ควบคู่กันไป 3.ให้จัดเป็นศูนย์กลางส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ โดยให้ราษฎรยืมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีไปผสมหรอเลี้ยงแล้วส่งลูกคืน และ 4.ให้มีศูนย์พัฒนาการเกษตร ไว้ให้ราษฎรได้ศึกษาและเยี่ยมชมเพื่อนำเอารูปแบบไปปรับปรุงไร่นาของตัวเอง ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ จึงได้น้อมนำหลักทั้ง 4 ประการ ดำเนินการจัดเป็นฐานการเรียนรู้ โดยนำเทคโนโลยีจากงานวิจัยที่เป็นประโยชน์กับเกษตรกรนำมาจัดแสดง สาธิต และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่สำหรับบริการแก่เกษตรกรรุ่นใหม่ เกษตรกรผู้นำ และเกษตรกรทั่วไป รวมทั้งผู้มาศึกษาดูงาน
นอกจากนี้ ยังเตรียมพื้นที่อีกประมาณ 400 ไร่ ให้เกษตรกรเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรสมัยใหม่และศาสตร์พระราชา โดยจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาแต่งจัดทำเป็นพื้นที่ทดสอบ(Test Based Area) เกษตรสมัยใหม่ หรือเกษตร 4.0 เต็มรูปแบบโดยมีหน่วยงานที่ร่วมลงนามกันร่วมมือกันดำเนินการ และแบ่งพื้นที่ให้เกษตรกรรุ่นใหม่ได้เข้ามาศึกษา ฝึกปฏิบัติ เพื่อการประกอบอาชีพ ทำเกษตรกรใหม่อย่างเต็มรูปแบบและทดลองทำการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อนำประสบการณ์ความรู้จริงกลับไปปฏิบัติและปรับใช้ในพื้นที่ตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ภาคเอกชน รวมถึงบริษัทด้านเครื่องมือเทคโนโลยีด้านการเกษตรต่างๆ ใช้พื้นที่ในการโชว์เทคโนโลยีของตัวเอง โดยจะมีการใช้ Internet of Things หรือ IOT ซึ่งจะทำให้การจัดการเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเป็นประโยชน์กับเกษตรกรในพื้นที่
