จากกรณี ที่ น.ส.มิล (นามสมมุติ) สาวธนาคารแห่งหนึ่ง จ.ระยอง ได้ ถูก คนร้ายเป็นชายขับรถ ปาเจโร่ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน มอมยา ในไวน์ ขณะนั่งดื่มภายในห้องพัก ชั้น 2 คอนโด CKC ต.เนินพระ อ เมือง จ.ระยอง จับแก้ผ้า มัดมือ แล้วกวาดทรัพย์สิน เป็นสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ เงินสด แหวนเพชร และ โทรศัพท์ 3 เครื่อง มูลค่ากว่าแสนบาท ก่อนจะขับรถหนีลอยนวล เบื้องต้นตรวจกล้องวงจรปิดคาดคนร้ายมีด้วยกันสองคน ส่วน น.ส.มิล ขณะนี้ยังไม่ฟื้นจากฤทธิ์ยา ยังไม่พร้อมให้การ โดยทราบข้อมูลเบื้องต้นว่ารู้จักกับคนร้ายผ่าน แชท บีทอล์ก จนสนิทกันก่อนจะถูกลวงขึ้นไปบนห้อง แล้วมอมยากวาดทรัพย์สินไป ซึ่งตำรวจมีภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิด คาดเป็นคนในพื้นที่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.พ.ต.อ.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน ผกก.สภ.เมือง ระยอง ร.ต.อ.หญิง หัทยา สัมมา รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมือง จ.ระยอง ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางตำรวจได้สืบจนทราบถึงผู้ต้องหา มอมยาสาวธนาคารแห่งหนึ่ง แล้วกวาดทรัพย์สินไปกว่าแสนบาท จึงได้ขออนุมัติหมายศาล จับกุมนายอนันต์ ทวีคูณ หรือเล็ก อายุ 43 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.อ่างทอง จึงพยายามแกะรอยจนสามารถทราบเบาะแสว่า อยู่ในพื้นที่เขต มีนบุรี กรุงเทพฯ
ต่อมา พ.ต.ท.ธีระพงษ์ รองผกก.สส.สภ.เมือง ระยอง พร้อมกำลังตำรวจชุดสายสืบได้เดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ตามที่ได้เบาะแสมา จนกระทั่งพบตัวนายอนันต์ ทวีคูณ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 90 ถนนทรัพย์สิน ตำบลตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง เดินอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าหลักสี่พลาซ่า เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อตรวจสอบจนมั่นใจว่าตรงกับคนร้ายตามหมายจับ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที โดยที่นายอนันต์ไม่ต่อสู้ขัดขืน จึงควบคุมตัวพาไปยังห้องพักที่อยู่ใกล้เคียง ตรวจค้นภายในห้องพบทรัพย์สินของ น.ส.มิล(นามสมมุติ)สาวแบงค์ที่ถูกมอมยา หลายรายการ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
โดยนายอนันต์ คนร้าย ถึงกับหน้าซีดยอมรับสารภาพเสียงอ่อย ว่า ตนเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง และ ก่อเหตุเพียงคนเดียวโดยเช่ารถยนต์พร้อมคนขับมาจากกรุงเทพ โดยที่คนขับไม่มีส่วนรู้เห็นในการลงมือกระทำดังกล่าว หลังก่อเหตุก็เดินทางกลับมายังที่พักใช้ชีวิตตามปกติ ก่อนลงมือได้ แชทกับสาวแบงค์ ผ่าน บีทอล์ก ได้ 1 สัปดาห์ เมื่อเห็นเหยื่อหลงเชื่อ จึงวางแผนลงมาพบและลงมือมอมยานอนหลับลงใส่ในไวน์ พอเหยื่อหมดสติได้ข่มขืนเหยื่อ ก่อนจะกวาดทรัพย์สินหนีออกจากห้องไปทันที โดยมัดมือเหยื่อไว้ด้วย
พร้อมทั้ง สารภาพว่าเคยก่อเหตุในรูปแบบดังกล่าว กับผู้หญิง ผ่านการแชทบีทอล์ก จนฝ่ายหญิงหลงเชื่อ ก็จะลงมือในทำนองเดียวกัน แต่เนื่องจากเหยื่อที่ถูกตนก่อเหตุ ที่ จ.เชียงใหม่ พัทยา และ ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเหยื่อทั้ง 3 ได้แจ้งความไว้ แต่ไม่มีหลักฐาน จนกระทั่งมาก่อเหตุกับสาวแบงค์เป็นรายที่ 4
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายอนันต์ ทวีคูณ ผู้ต้องหา พร้อมหลักฐานกลับมายัง สภ.เมือง ระยอง เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งจะมีการประสานให้ทางผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุก่อนหน้านี้มาชี้ตัวยืนยันอีกครั้ง แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมกับหลักฐานทรัพย์สินที่ผู้เสียหายที่พบในห้องคนร้าย และ ยังให้การรับสารภาพจึงไม่ผิดตัวอย่างแน่นอน
