วันที่11มีค เวลา 15.39 น. รตท. ปริญญา ใจเที่ยง รองสารวัตรสอบสวน สภ. เมืองระยองรับแจ้ง คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ปล้นธนาคารธนชาติ สาขาระยอง เลขที่ 172/1 ริมถนนสุขุมวิท ต.ท่าประตู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐาปนะ คลอสุวรรณา ผกก.สภ.เมืองระยอง และพ.ต.ต.คำพันธ์ ขวัญทอง สว.สส.ฯ รตอ. สุรเดช มณีพิทักษ์ หน. ชุดอีโอดี ภูธรระยอง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ พนักงานอยู่ในอาการตื่นตระหนกรอให้การเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ โดยชุดอีโอดีได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปิดล้อมรอบธนาคาร ห้ามบุคคลเข้าออก ตรวจสอบแล้วไม่พบคนร้ายอยู่ในธนาคาร จึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด
ทราบว่าคนร้ายเดินเข้ามาในธนาคารเหมือนลูกค้าทั่วไป สวมหมวกปีกใบใหญ่ปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาในธนาคารและชักปืนยิงขึ้นฟ้าหนึ่งนัดเพื่อเปิดทางจากนั้นตรงเข้าไปที่เคาเตอร์กระโดดข้ามไปดึงลิ้นชักเงิน หลายลิ้นชัก กวาดเงินในลิ้นชักจากนั้นกระโดดข้ามเคาร์เตอร์พร้อมกับยัดเงินใส่ในกระเป๋ากางเกงเดินออกจากประตูด้านหน้า ขึ้นรถเก๋งที่จอดรออยู่หน้าธนาคารโดยขึ้นที่ประตูหลังมีคนขับรออยู่เมื่อคนแล้วขึ้นรถก็ขับหลบหนีเลี้ยวเข้าซอยศูนย์การค้าหลบหนี
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในธนาคารพบว่า คนร้ายใช้เวลาก่อเหตุเพียง1นาที โดยมาเฝ้ารอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจความเรียบร้อยคล้อยหลังออกไป คนร้ายก็เข้าไปในธนาคาร ใช้ปืนยิง1นัดเพื่อเปิดทางและกวาดเงินไปจำนวนกว่า 80,000 บาท
จากการตรวจสอบร่องรอยกระสุนปืนที่คนร้ายยิงพบหัวกระสุนที่ฝ้าเพดาน เป็นกระสุน.38 จำนวน 1นัด เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมา ได้มีเรื่องราวโกลาหนเมื่อมีเหตุชุลมุนขึ้นที่ห้างแพชชั่น ซึ่งอยู่ห่างจากธนาคารธนชาติ1 กม.. ประชาชน พ่อค้าแม่ค้าในห้าง ต่างพากันวิ่งหลบหนีออกจากห้าง อย่างโกลาหน เพราะมีการไล่จับคนร้ายโดยลือกันว่า คนร้ายรายเดียวกับที่ปล้นแบงค์ธนชาติ ได้มาก่อเหตุปล้นธนาคารในห้างอีก ทำให้ประชาชนแตกตื่นวิ่งหนีออกจากห้างอย่างโกลาหน.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: