เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะเข้าชาร์ท หนุ่มโรงงานที่คุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้าและขังตัวอยู่ในบ้าน ท่ามกลางครอบครัวและประชาชนที่รอลุ้นด้วยความระทึก
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 13 มีนาคม 2563 พ.ต.ท.อนุชา พรมอารักษ์ ร้อยเวรฯ สอบสวน สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งเหตุ มีชายเกิดอาการคลุ้มคลั่ง มีอาวุธปืนอยู่ภายในบ้าน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยองตำรวจปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจสายสืบเมืองระยอง
สถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 103/89ม. 7หมู่บ้านโชคนิมิต 8 ตั้งอยู่ด้านหลัง โรงพยาบาลกรุงเทพ จ.ระยอง เป็นบ้านทาวเฮาส์ขนาด 25 ตรว. รั้วติดกันชายคนดังกล่าวได้หลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณบ้านคนเดียวทราบชื่อคือนายสมโภช นะรังสรรค์ อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่ได้ขอให้ ภรรยา และ และมารดาของ นายสมโภชน์ เข้าเกลี้ยกล่อมแต่ก็ไม่เป็นผล นายสมโภชน์ยังตะโกนออกมาเป็นระยะๆ เมื่อตำรวจพยายามตะโกนเข้าไปหลายครั้ง ทำให้ นายสมโภชน์ เกิดความโมโหได้ใช้หนังสติ๊ก ยิงออกมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้กันพื้นที่ในซอยไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออก เนื่องจากนายสมโภชน์ยังคุ้มคลั่ง หลังจากที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 3 ชั่วโมงไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจ ใช้ยานอนหลับใส่ในน้ำดื่มให้มารดานำไปส่งให้นายสมโภชน์ โดยวางไว้ที่ช่องหน้าต่าง เพื่อให้การเข้าควบคุมตัวไม่ต้องเสี่ยงอันตราย และไม่ให้เกิดการสูญเสีย อีกทั้งครอบครัวของนายสมโภชน์ก็ยังอยู่ในเหตุการณ์ และมีความเป็นห่วงนายสมโภชน์ ผ่านไปนานเกือบชั่วโมง เสียงของนายสมโภชน์สงบลง เจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันและอาวุธครบมือได้พังประตูเข้าไปชาร์ทตัวนายสมโภชน์ภายในบ้าน นำตัวออกมาในสภาพไม่สวมเสื้อกางเกงหลุดลุ่ย คุ้มคลั่งอาละวาด เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันจับและเกลี้ยกล่อมให้สงบก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการคุ้มคลั่ง
ข่าวน่าสนใจ:
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า นายสมโภชน์ ทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง เมื่อวานได้ออกจากบ้านไปดื่มเหล้า กลับมาตอนไหนไม่มีใครรู้ รุ่งเช้าประมาณ 11.00 น. ก็ได้มาถามหาลูกสาวซึ่งอยู่กับยาย และภรรยาที่บ้านหลังติดกัน แต่ไม่เจอลูกเพราะภรรยาได้พาลูกไปทำกิจกรรมที่โรงเรียน จากนั้นนายสมโภชน์ก็เกิดอาการคลั่งเข้าไปในบ้านยิงปืนขึ้นฟ้า จำนวนสองนัด ก่อนขังตัวเองอยู่ในบ้านพร้อมอาวุธปืนรวมเวลาที่เกิดเหตุนาน 4 ชั่วโมง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: