จ.ระยอง แถลงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) กลับบ้านได้หมดแล้ว ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ส่วนผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวจับแล้ว 25 ราย
เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติ COVID-19 จังหวัดระยอง ศาลากลางจังหวัดระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายแพทย์ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง และนางศุภดี วีถีธรรมศักดิ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) จังหวัดระยอง และมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว
นายแพทย์ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) จังหวัดระยองตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม- 7 เมษายน 2563 พบจำนวนผู้ป่วย 5 ราย หายกลับบ้านได้ทั้งหมด 5 รายแล้ว และเป็นที่น่ายินดีไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม อย่างไรก็ตามจากฝากให้ประชาชนได้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันตนเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ด้านนางศุภดี วิถีธรรมศักดิ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศให้งดจัดงานประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ ทางศาสนาทั้งหมด และจังหวัดระยอง ก็ได้มีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณีและพิธีการต่างๆ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยเฉพาะประเพณีสงกรานต์ ก็ให้ประชาชนได้จัดกันแต่ภายในครอบครัวเท่านั้น เช่น การสรงน้ำพระพุทธรูป ก่อนและหลังร่วมกิจกรรมก็ขอให้แต่งกายมิดชิด สวมใส่หน้ากากอนามัย ใช้น้ำที่สะอาด หรือสบู่เหลว เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เช่นเดียวกันกับการรดน้ำขอพรผู้สูงอายุต้องคำนึงถึง เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุอาจติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป ก็ให้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำที่ถูกต้อง หรือควรใช้การสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์หรือช่องทางสังคมออนไลน์แทนก็ได้ รวมทั้งมีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา
ทางด้าน ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ถือว่าเป็นข่าวดีที่จังหวัดระยอง ผู้ป่วยติดเชื้อทั้ง 5 รายหายกลับบ้านได้แล้ว และไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ซึ่งเกิดจากการทำงานของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้การทำงานกันอย่างเต็มที่ และการบังคับการใช้กฎหมายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของจังหวัดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป จะขอความร่วมมือประชาชนทุกคนออกจากเคหะสถานต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย 100 เปอร์เซ็นทุกคน
ส่วนผลลการปฏิบัติงานการตั้งด่านจุดตรวจและจุดสกัดตามมาตรการ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ไม่อนุญาตให้ออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น.ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาต เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ตั้งแต่วันที่ 4-7 เม.ย.63 จับกุมได้ทั้งหมด 25 ราย โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา(7 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ จับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ถึง 9 ราย สาเหตุเนื่องจากไปเมาสุรา และมียาเสพติดในครอบครอง ถูกแจ้งข้อหา“ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่” ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
