เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 15 กันยายน ร.ต.ท.สุเชษฐ์ เทพชาลี ร้อยเวร สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้ง เกิดเหตุคนร้ายงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยสาขาท่าประดู่ เลขที่ 2/1 ปากซอยราษฎร์บำรุง ริม ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ และ ตำรวจวิทยาการ จ.ระยอง เดินทางไปที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งมีตู้เอทีเอ็มติดตั้งอยู่ด้านหน้าธนาคาร จำนวน 4 ตู้ ตู้กดเงิน 2 ตู้ ตู้ฝากเงินสด 1 ตู้ และ ตู้ปรับสมุดบัญชี 1 ตู้ เข้าไปตรวจสอบพบว่าประตูกรงเหล็กถูกคนร้ายใช้แก๊สตัดจนขาดเป็นรอยไหม้รอบตัวล็อค เข้าไปด้านหลังตู้พบว่าตู้เอทีเอ็มกดเงินสด ถูกคนร้ายใช้แก๊สตัดประตูด้านหลังจนถูกไฟไหม้เกรียมจนพลาสติกละลาย และ มีธนบัตรฉบับละ1,000บาท ถูกไฟไหม้จนเหลือเพียงครึ่งใบตกอยู่ จำนวน 2 ใบ ภายในตู้พบมีการงัดจนเห็นธนบัตรในกล่อง คาดว่าคนร้ายดึงออกไปไม่ได้ และเอาไปเท่าที่ดึงออกไปได้ ก่อนจะหลบหนีไป และ จากการตรวจสอบยังพบว่ามีการตัดระบบไฟฟ้าทั้งหมด
ต่อมา พ.ต.อ.วิเชียร ยันตรัตน์ รองผบก.ระยอง พ.ต.อ.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน ผกก.สภ.เมือง ระยอง และ เจ้าหน้าที่ของธนาคารเกิดเหตุ เดินทางมาตรวจสอบ พบว่าคนร้ายได้มีการตัดระบบไฟฟ้าของกล้องวงจรปิด และ สัญญาณเตือนภัย ตรวจสอบยอดเงินภายในตู้เอทีเอ็มที่ถูกงัด พบว่าเมื่อวันที่ 13 ก.ย.61 ได้นำเงินมาบรรจุใส่ในตู้จำนวน 6,000,000 บาท และ เหลือยอดในตู้หลังจากเกิดเหตุ 1,300,000 บาท ตรวจสอบแล้วพบว่าคนร้ายได้เงินไปจำนวน 37,000 บาท ส่วนภาพจากกล้องต้องรอตรวจสอบอีกครั้งจากฝ่ายเทคนิคของธนาคาร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นชุดเดียวกับที่ก่อเหตุที่แบงค์กรุงเทพแต่ไม่ได้เงินไป จึงย้อนกลับมาลงมือซ้ำและได้เงินไปดังกล่าว แต่ถึงอย่างไรยังต้องรอการตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดของธนาคารและติดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีไปจึงจะสรุปได้แน่ชัดว่าเป็นชุดเดียวกันหรือคนละชุด
