เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้คุมตัว Mr.Nikolic Lav และ Mr.Skocic Nenad 2 ผู้ต้องหาชาวเซอร์เบียมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วยตัวเอง หลังก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารธนาคารกรุงไทย สาขาท่าประดู่ ริมถนนสุขุมวิท อำเภอเมืองระยอง ตั้งแต่เริ่มใช้คีมตัดกุญแจตู้ไปจนถึงใช้แก๊สตัดตู้เอทีเอ็ม ได้เงินสดไป 110,700 บาท และธนาคารกรุงเทพ สาขาระยอง สามแยกตากสิน ถนนสุขุมวิท อำเภอเมืองระยอง แต่ไม่ได้เงินไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยจาก GPS รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุตามจับกุมได้ที่ห้องพักในพื้นที่ตำบลตะเคียนทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองระยอง ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 สถานที่ จนเชื่อว่าคนร้ายเป็นชุดเดียวกัน เนื่องจากขณะก่อเหตุคนร้ายมีการแต่งกาย การเดิน การใช้อุปกรณ์ก่อเหตุเหมือนกัน แต่เปลี่ยนยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุเป็นคนละคัน และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางการก่อเหตุและการหลบหนีของคนร้าย พบว่ารถยนต์ทั้ง 2 คันมาจากเมืองพัทยาและคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ จึงประสานไปตามศูนย์เช่ารถในพื้นที่เมืองพัทยาจนกระทั่งพบเป็นรถเช่าในเมืองพัทยา ที่มีผู้เช่าและเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อรถทั้งสองคันเป็นคนเดียวกัน จึงนำสู่การจับกุมตัวดังกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- นนทบุรี กระบะเลี้ยวตัดหน้า จยย.พุ่งชน ร่างหนุ่มชาวลาวลอยก่อนตกกระแทกพื้นดับ
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
และจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาแก๊งค์นี้ พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ก่อนหน้านี้มาหลายครั้งแล้ว โดยปี 2553 งัดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงศรีอยุธยาสาขากระเฉด อำเภอเมืองระยอง ถูกจับกุมตัวได้พร้อมของกลางและดำเนินคดีตามกฎหมาย ปี 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าลี่ จังหวัดเลย จับกุมตัวได้พร้อมของกลาง อุปกรณ์ที่ใช้งัดตู้เอทีเอ็ม ถูกดำเนินคดีและถูกส่งตัวกลับประเทศ และถูกขึ้นบัญชีผู้ไม่พึงปรารถนา (บัญชีดำห้ามเข้าประเทศ) แต่ได้ทำการเปลี่ยนชื่อสกุลและหนังสือเดินทางจึงกลับเข้าก่อเหตุจนกระทั่งถูกจับกุมได้อีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: