ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นั่งรถจะกลับบ้านพักตลึงแทบช็อก เห็นชาวบ้านแห่รับสิ่งของนำมาแจกหน้าตลาดสดยืนเข้าแถวตัวติดกัน จำนวนหลายร้อยคนจนแน่นหน้าตลาด ลงรถสั่งการเว้นระยะห่างทันที
(วันที่ 30 มค) โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่หน้าตลาดสดวัดลุ่ม ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง ในเขตเทศบาลนครระยอง ได้มีการจัดนำสิ่งของซึ่งมีทั้งข้าวสารอาหารแห้ง ปลาสด หมูสด ไก่สด พร้อม ผักผลไม้ มาแจก มากมายหลายพันชุด ชาวบ้านที่รู้ข่าวจำนวนนับหลายร้อยคนต่างพากันแห่มาเข้าคิวรอรับแจกสิ่งของ
จากการสอบถามทราบ นาย อนุชา หินกอง อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นคณะกรรมการของตลาดวัดลุ่ม จัดกิจกรรมแจกสิ่งของแก่ชาวบ้านครั้งนี้ ว่าได้ร่วมกันกับพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องชาวระยองที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด19 อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้คนให้ออกมาจับจ่ายซื้อสิ่งของภายในตลาดดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้ตลาดสดแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ตรวจพบแม่ค้ารายหนึ่งป่วยติดเชื้อโควิด19 ระลอกใหม่เป็นรายต้น ๆ ของจังหวัดระยอง จนถึงขั้นสั่งปิดตลาดพร้อมทั้งทำการตรวจคัดกรองแม่ค้าทั้งตลาดและผู้คนในชุมชนมาแล้ว แต่เมื่อเปิดตลาดสดขายตามปกติอีกครั้ง และยังได้พ่นยาฆ่าเชื้อทั้งตลาดไปหลายรอบแล้ว แต่ตลาดแห่งนี้กลับซบเซา ไม่ค่อยจะมีผู้คนมาเดินจับจ่ายซื้อของคึกคักเหมือนเดิม ทำให้พ่อค้าแม่ค้าพากันขายของไม่ได้ จนในที่สุดคณะกรรมการตลาดวัดลุ่ม จึงได้มีการหารือกัน และนำสิ่งของมาแจกจ่ายแก่ชาวบ้านเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นหวังดึงความมั่นใจแก่ชาวบ้านให้กลับมาจับจ่ายซื้อของภายในตลาดเหมือนเดิม
ซึ่งจากการสังเกตการจัดแจกสิ่งของแก่ชาวบ้านครั้งนี้มีการวางมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ด้วย โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายฉีดแอลกอฮอล์ล้างมือ แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากมายืนรอต่อแถวยาวมาก จึงทำให้เกิดความแออัด
ในขณะที่กำลังแจกของชาวบ้าน นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองและนายอินทรีย์ เกิดมณี ปลัดจังหวัดระยอง เดินทางผ่านมา เพื่อกลับเข้าบ้านพักพอดี เนื่องจากเป็นทางผ่านจะกลับไปยังจวนผู้ว่า และบ้านพักของปลัดจังหวัด ถึงกับตะลึงและตกใจที่มีผู้คนมาเข้าแถวยาวเหยียดแออัดกันอยู่หน้าตลาด จึงได้จอดรถลงไปสอบถามกรรมการตลาดและปลัดเทศบาลนครระยอง พร้อมทั้งลงไปสั่งการให้จัดระเบียบเว้นระยะห่างผู้คนด้วยตนเอง เนื่องจากผู้คนแออัดจำนวนมาก ทั้งนี้ยอมรับว่า การกระทำดังกล่าวเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด 19 เพราะจังหวัดระยอง ยังคงเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงอยู่ อีกทั้งยังมีการตรวจค้นพบผู้ป่วยรายใหม่อยู่ต่อเนื่อง จึงกังวลว่า หากประชาชน ยังไม่ระมัดระวังใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยง ก็อาจจะเกิดผลเสียตามมา
