พนักงานการบินไทย ร้องเยียวยาหลังการบินไทยคืนพื้นที่ศูนย์ซ่อมอากาศยานแห่งที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง พนักงานต้องย้ายกลับสำนักงานใหญ่ ทำเดือดร้อนต้องจากครอบครัว และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีตัวแทนพนักงานการบินไทย สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จำนวน 30 คน นำโดยนายกรณีย์ จวงพันธ์ และนางสาวณิชาภา เหลืองอ่อน ได้ยื่นหนังสือกับทางตัวแทนคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) EEC มีนายเฉลิมชาติ กองแสง ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง และนางปรียาพร บุญโกสุม นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง รับเรื่อง
นายกรณีย์ กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาล ได้มีแผนดำเนินการโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) EEC มีหนังสือแจ้งความจำเป็นที่ต้องใช้พื้นที่ศูนย์ซ่อมอากาศยานแห่งที่ 2 ของการบินไทย สนามบินอู่ตะเภา หลังมีการชะลอการก่อสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานดังกล่าวออกไปไม่มีกำหนด เนื่องจากอยู่ในช่วงทำแผนฟื้นฟูกิจการ และกำหนดให้รื้อถอนออกจากพื้นที่ เพื่อก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ในปี 2564 นั้น ส่งผลให้ต้องย้ายพนักงานท้องถิ่นไปประจำที่ฝ่ายช่างดอนเมือง กรุงเทพฯ ทำให้พนักงานที่เป็นคนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการ EEC ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ต้องจากครอบครัว ต้องย้ายถิ่นฐานที่อยู่อาศัย ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและที่พักอาศัยในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้น รวมทั้งบุตรต้องย้ายสถานศึกษา เนื่องจากกำลังศึกษาและหาสถานศึกษาใหม่ค่อนข้างลำบาก เพราะมีทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัด อาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมอื่นๆ หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้โอกาสได้ทำงานต่อค่อนข้างน้อย เนื่องจากการปรับโครงสร้างของบริษัทอาจทำให้ถูกเลิกจ้าง จึงขอความกรุณาให้ทางคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้ช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบตามหลักการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสิทธิตามกฎหมาย รวมถึงตามพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ด้วย.
ด้านนายเฉลิมชาติ กองแสง หลังรับหนังสือร้องเรียนแล้ว ได้แจ้งให้ผู้ที่มาร้องเรียนทราบว่า เรื่องดังกล่าวตนจะเสนอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับทราบและจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใน 7 วัน จะทราบผล.
