จากกรณี สาว อายุ 36 ปี เข้าแจ้งความ ที่สภ.เมือง ระยอง ว่าเกิดอาการปัสสาวะบ่อยวันละหลายรอบ สงสัยเกิดจากการดื่มน้ำประปา และน้ำที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ สงสัยว่ามีสารปนเปื้อน จนทำให้ตำรวจอึ้งกันทั้งโรงพัก
ด้านพ.ต.ท.ประเสริฐ เตชะมา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง กล่าวว่า ตำรวจเข้าใจ และ ยินดีให้บริการ ซึ่งผู้แจ้งรายนี้ เป็นนักแจ้งความขาประจำ เดือนละกว่าสิบรอบ จะแจ้งในข้อหา ปัสสาวะบ่อย เพราะน้ำปนเปื้อนสาร และเรื่องคอนแทคเลนส์หาย ซึ่งก็ให้คำแนะนำทุกครั้ง โดยให้ไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการ ตามที่ตกเป็นข่าว
ล่าสุดจึงได้ประสาน มารดา ของผู้แจ้งเข้ามาพบ เพื่อสอบถามความเป็นมาเป็นไป จะได้หาทางรักษาอย่างถูกวิธีซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า ตกใจมากที่เห็นบุตรสาวเป็นข่าว ก่อนอื่นต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บุตรสาวมาสร้างความวุ่นวาย ความจริงแล้ว บุตรสาว มีอาการป่วยทางจิตมากว่า 5 ปีแล้ว โดยป่วยขณะที่กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีอาการป่วย ได้เรียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวเคมี จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วมาทำงานในโรงพยาบาลเอกชนใน จ.ระยองประมาณ 3 ปี ก่อนจะไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท โดยขณะเรียนปริญญาโท ได้ ประมาณ 1 ปี ต้องหยุดเรียน เพราะเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป พูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง ชอบออกจากบ้านทุกวัน ห้ามก็ไม่ฟัง จากเคยเป็นคนเรียบร้อยก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมาทางตนเองจึงพาไปพบแพทย์จิตแพทย์ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แพทย์ตรวจพบว่ามีอาการป่วยแต่อาการยังไม่รุนแรงรักษาต่อเนื่องก็ดีขึ้น จ่ายยาให้มากินเพื่อรักษาอาการ แต่ไม่ยอมกินยาตามที่แพทย์จัดมาให้ จะชอบออกจากบ้านทุกวัน โดยไม่บอกว่าไปไหน ใครห้ามก็ไม่ฟังสงสารลูกสาวมากไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรจึงเป็นแบบนี้
ด้านพ.ต.ท.ประเสริฐ เตชะมา รองผกก (สอบสวน).สภ.เมือง ระยอง ได้กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ไม่มีการวางยาในน้ำแต่อย่างใด ซึ่งทราบจากมารดาผู้แจ้ง ว่าบุตรสาวมีอาการป่วยซึ่งทางตำรวจจะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการรักษาอาการที่เป็นอยู่ เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: