โดยมีการขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังสถานประกอบการ ชุมชน สถานศึกษา ประชาชนทั่วไป ชมรมออกกำลังกาย และหน่วยงาน ต่าง ๆ พร้อมทั้งสามารถสะสม Health Point หรือแต้มสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ในกิจกรรมต่างๆ เป็นการสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการออกกำลังกายของประชาชนเพิ่มมากขึ้น
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.ที่สวนพฤกษศาสตร์ ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานปล่อยตัวนักวิ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมก้าวท้าใจ Season4 วิถีถัดไป พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ ระยะทาง 3 กม.ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมอนามัย และเขตสุขภาพที่ 6
ข่าวน่าสนใจ:
- ชมรมโฮปฯ ร่วมกับชุมชน จัดกิจกรรม ซานตาโฮป แจกของขวัญให้กับเด็กในชุมชนกว่าพันชิ้น
- เปิดรับสมัคร นายก และสมาชิก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ วันแรกคึกคัก
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นสร้างเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้อง ส่งเสริมการออกกำลังกายโดยให้ชุมชนเป็นฐานในการสร้างสุขภาวะที่ดีส่งเสริมให้บุคลากรสาธารณสุขเป็นต้นแบบด้านสุขภาพ (Health Model) ร่วมกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการส่งเสริมการออกกำลังกายซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการโครงการ ก้าวท้าใจ มาแล้ว 3 Season มีผู้เข้าร่วมสะสมในภาพประเทศทั้งสิ้น 3,300,916 คน เขตสุขภาพที่ 6 มีผู้เข้าร่วม ทั้งสิ้น จำนวน 216,541 คน โดยในปี 2565 เขตสุขภาพที่ 6 ได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการก้าวท้าใจ Season 4 วิถีถัดไป พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยการลงทะเบียนและ เก็บสะสมแต้มสุขภาพ (Health Point) ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผ่าน Line ID @thnvr เข้าร่วมได้ทั้งสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ มีการคัดกรองสุขภาพ โดยการประเมินค่าดัชนีมวลกาย ส่งผลและรายงานผลการออกกำลังกาย เพิ่มรูปแบบกลุ่มและขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังสถานประกอบการ ชุมชน สถานศึกษา ประชาชนทั่วไป ชมรม ออกกำลังกาย และหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งมีการจัดแข่งขันภายในกลุ่มและเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม พร้อมทั้งสามารถสะสม Health Point หรือแต้มสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ในกิจกรรมต่างๆ เป็นการสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการออกกำลังกายของประชาชนเพิ่มมากขึ้น
ทางด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กลุ่มวัยทำงานเป็นกลุ่มเป้าหมาย สำคัญที่ต้องการให้มีส่วนร่วมในโครงการนี้เพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง และอ้วน พร้อมทั้งเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค จึงควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-5 วันๆ ละ 30 นาที โดยยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่งหรือเดินเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการทำงานระบบไหลเวียนโลหิต ฝึกการใช้งานกล้ามเนื้อ ทำให้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น เผาผลาญไขมัน และลดระดับคอเลสเตอรอล รวมทั้งการวิ่งที่เหมาะสมต่อร่างกาย จะช่วยลดปัญหาข้อต่อเสื่อม ลดอาการปวดข้อและป้องกันการเกิดข้อติด การวิ่งเพื่อสุขภาพจะต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3- 5 วัน วันละ 30 นาที ไม่หักโหมหรือเหนื่อยมากจนเกินไป นอกจากนี้การออกกำลังกายยังทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดได้ ช่วยให้การทำงานของปอด หัวใจ กล้ามเนื้อแข็งแรง ทั้งยังช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือน้ำหนักตัวมากควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: