X

“สาธิต” เดือด ซัด”ทิม พิธา” ขโมยผลงาน เตรียมให้ทีมกฏหมาย ดำเนินการ มาตรา 73 (5) ลั่นไม่หนักใจ มั่นใจชาวระยองยังให้โอกาส กับผลงานที่ทำมากว่า 20 ปี

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 พ.ค.ที่อาคาร TSK ปาร์คเมืองระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบโต้กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หน.พรรคก้าวไกล เดินทางมาปราศรัยหาเสียงที่แหลมเจริญ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา กล่าวตำหนิการทำงานของตน 4 ปีที่เป็นฝ่ายบริหาร เป็นการบิดเบือนข้อมูลใน 3 เรื่องคือ 1.การแก้ไขปัญหาโควิด-19 บ่อนการพนันในพื้นที่ 2.กรณีทหารอียิปต์ติดโควิด-19 และ 3.เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลลงทะเลระยอง

นายสาธิต กล่าวว่า ในวันที่มีการรับสมัคร ส.ส.ผู้สมัครได้มีการแสดงเจตนารมย์ร่วมกันทุกคนว่าจะหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่โจมตีใส่ร้ายกัน โดยจะมีการชูนโยบายพรรคเพื่อให้ ปชช.เป็นคนตัดสิน การที่นายพิธา ได้มีการปราศรัยดังกล่าว เป็นการเข้าข่ายใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในตัวผู้สมัคร ซึ่งในเรื่องของบ่อนที่ส่งผลให้มีการติดโควิด-19 ในขณะนั้นตนได้ลงพื้นที่ไปดู จัดการร่วมกันกับทุกภาคส่วน รวมถึงเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ปิดบ่อน ย้ายตำรวจทุกระดับชั้นจนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และนำไปสู่การจับกุมเจ้าของบ่อน และเรื่องของทหารอียิปต์ติดโควิด-19 นั้น ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ไปแก้ไขปัญหาทันที วันรุ่งขึ้นเอาทหารอียิปต์ไปตรวจ เอากลุ่มใกล้ชิดไปสอบสวนโรค จนควบคุมได้ จากนั้นยังเรียกความเชื่อมั่นให้คนระยองให้กลับมาจนสำเร็จ ส่วนเรื่องของเหตุการณ์น้ำมันรั่ว ปี 56 ตนขณะนั้นเป็นฝ่ายค้าน ได้เดินทางลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ทันที ส่วนเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลปลายปี 65 ตนได้ลงพื้นที่ทันที โดยในได้นั่ง ฮ.กับ รมว.อุตฯ และผวจ.ระยอง บินตรวจสอบคราบน้ำมัน และทำงานร่วมกับทีม จนท.เพื่อป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันลอยเข้าฝั่ง จนกระทั่งได้มีการประสานรัฐบาลขอกำลังทหารเรือมาดำเนินการแก้ไขสถานการณ์จนคลี่คลาย รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นของ ปชช.และนทท.ด้วย ซึ่งการปราศรัยของนายพิธา ถือว่าไม่สร้างสรรค์ เป็นจูงใจให้เข้าใจผิดในตัวผู้สมัคร และเป็นการเคลม หรือขโมยผลงานของคนระยองไปเป็นของตัวเอง เพื่อหวังคะแนนเสียง ซึ่งตนกำลังให้ทีมทนายความตรวจสอบว่าการปราศรัยดังกล่าวจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท หรือเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของตัวผู้สมัคร ส.ส.คน อื่นและตน รวมทั้งพรรคการเมือง อยู่ในมาตรา 73 พ.ร.บ.การเลือกตั้งด้วยหรือไม่ ซึ่งจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน