‘กล้า’พศิน ปิตุเตชะ ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง พรรค ปชป.เปิดเวทีปราศรัยชูนโยบายพรรค อ้อนขอคะแนนเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ขณะที่ สาธิต รมช.สธ.ช่วยหลานชายหาเสียง ประกาศเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่ลง ส.ส.แบบแบ่งเขต พร้อมสรรหาคนเหมาะสมลงแทน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 9 พ.ค.ที่บริเวณลานหน้าทีเอสเค ปาร์ค อ.เมือง จ.ระยอง นายพศิน ปิตุเตชะ หรือกล้า ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 1 เบอร์ 3 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 14 พ.ค.นี้โดยมี กลุ่มเยาวชน วัยรุ่น และปชช.จำนวนหนึ่งเดินทางมารับฟังนโยบายพรรคด้วยความสนใจ และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ.ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 2 ก็ได้มาร่วมเวทีปราศรัย กับ’กล้า’พศิน ผู้เป็นหลานชายด้วย
นายสาธิต กล่าวย้ำว่า เหตุการณ์นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หน.พรรคก้าวไกล มาหาเสียงที่ระยอง รู้สึกผิดหวังที่เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่แต่เล่นการเมืองแบบสาดโคลนใส่กัน ไม่สร้างสรรค์ ขโมยหรือเคลมผลงานคนระยองเป็นของพรรคและตัวเอง พูดที่อื่นได้ แต่พูดที่ระยอง ตนรับไม่ได้ ซึ่งได้รวบรวมหลักฐานไว้หมดแล้ว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่เล่าให้ฟังเพราะต้องการให้ทุกคนเข้าใจเราแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีจนคลี่คลายทุกเหตุการณ์
สำหรับ พศิน ถ้ามีตัวเลือกตนคงไม่เลือกให้หลานชายลงรับสมัคร เพราะต้องการให้ทำงานให้เป็นที่ยอมรับคนระยองก่อน และจะให้ลงสมัครในโอกาสต่อไป
แต่ด้วยตัวเลือกอื่นที่มีข้อจำกัด จึงจำเป็นต้องเป็นพศิน และจากการที่ได้ลงพื้นที่ ในช่วงที่ผ่านมาประชาชนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พศินเป็นคนรุ่นใหม่มีความคิด เชื่อว่าจะสามารถเป็น ส.ส.ที่ดีได้ ก็ขอฝากสนับสนุนพศินหลานชายด้วย และหวังว่าจะได้พศินมาช่วยทำงานอีกคน ส่วนตนครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ต่อไปจะมีกระบวนการสรรหาคนมาลงแทนตน โดยมี คกก.คัดเลือกคนที่มีคุณภาพ เหมาะสมมาลงแทน ส่วนตนก็จะไปลงในบัญชีรายชื่อ
ด้าน นายพศิน กล่าวว่า การเปิดเวทีปราศรัยในวันนี้ เพื่อต้องการเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ประชาชนได้รับทราบ และชี้แจงนโยบายที่พรรคต้องการให้ระยองต้องพิศษอย่างไร ซึ่งจากการลงพื้นที่หาเสียงอย่างเต็มที่ กระแสต้อนรับดี มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้อง ปชช.ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้ายพยายามจะลงพื้นที่เดินไปทุกตำบล หมู่บ้านให้มากที่สุด เนื่องจากตนเป็นคนรุ่นใหม่มีความตั้งใจที่อยากจะเข้าไปทำงานจริงๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่วัยเดียวกันกับตน ก็ให้การสนับสนุนดี ซึ่งมองว่านโยบายเป็นไปได้จริง สามารถทำได้เลย ช่วงโค้งสุดท้ายนี้ตนจะสู้เต็มที่ เพื่อให้ชาวบ้านรู้ว่าเราพร้อมจะเดินไปด้วยกัน ส่วนการสะท้อนปัญหา พบว่าจังหวัดระยองเป็นเมืองที่โตเร็วมาก ปัญหาหลักๆ จะเป็นระบบสาธารณูปโภค และคุณภาพชีวิต ตรงนี้เราก็นำเสนอนโยบายพรรค เพื่อแก้ไขปัญหาโดยเป็นคนกลางที่จะนำปัญหาไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมกันนี้ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นตัวอย่างของคนที่สร้างสรรค์โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจการเมืองด้วย.
