X

ทช.จับมือภาคอุตสาหกรรม และชุมชนปลูกป่าชายเลน 3,500 ไร่

ทช.จับมือภาคอุตสาหกรรม และชุมชน ต.เนินฆ้อ จ.ระยอง ปลูกป่าชายเลน ภายใต้โครงการ’ยิ่งปลูก ยิ่งดี’ ตั้งเป้าปลูกครอบคลุม 4 จว.3,500 ไร่ จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ 23,700 ตันต่อปี

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 29 ส.ค.ที่บริเวณพื้นที่ป่าชายเลนสะพานรักษ์แสม ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาการอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ รอง ผวจ.ระยอง  ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC น.ส.กานต์จรัส เอียดทองใส นอภ.แกลง ปล่อยพันธุ์ปูแสมลงป่าชายเลน พร้อมกับนำผู้บริหาร ชุมชนและพนักงานจิตอาสา GC และชุมชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนช่วยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero และการปล่อยปูแสม เพื่อส่งเสริมอาชีพ และคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนท้องถิ่นระยอง ภายใต้โครงการ ‘ยิ่งปลูก ยิ่งดี’ ซึ่ง ทช.และ GC ได้ร่วมมือกับชุมชน ต.เนินฆ้อและต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน และวางแผนต่อยอดขยายผลไปยังพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตราด และเพชรบุรี รวมกว่า 3,400 ไร่ ทั้งนี้เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ นอกจากจะทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพของป่าชายเลนแล้ว จะสามารถสนับสนุนงาน อาชีพ และเศรษฐกิจที่แข็งแรงให้กับชุมชนด้วย

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า GC มีความมุ่งมั่นพร้อมสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน (Chemistry for Better Living) มีแผนงานที่ชัดเจนในการลดก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 20% ภายในปี 2030 และพร้อมเดินหน้าสู่ Net Zero ในปี 2050 ในฐานะพลเมืองโลกเราต้องการส่งต่อโลกใบนี้ ที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นต่อไป การปลูก ฟื้นฟู และรักษาป่าร่วมกับภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นแนวทางการจัดหาคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่บริษัทฯ ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2013 โดยปัจจุบันได้ดำเนินงานไปแล้วในพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ สำหรับโครงการนี้ GC มีการดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จังหวัดระยอง ตราด จันทบุรี และเพชรบุรี จำนวนทั้งหมดประมาณ 3,500 ไร่ คาดการณ์ว่าจะช่วยลดคาร์บอนได้ประมาณ 23,700 ตัน CO2e ต่อปี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมปล่อยปูพันธุ์แสม เพื่อเพาะพันธุ์ปูในพื้นที่อนุบาล ช่วยส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชาวประมงในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตชุมชนอีกด้วย.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน