ตามที่นโยบายของรัฐบาล ในการกำหนดให้สร้างโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรมเพื่อเป็นการลดปริมาณขยะและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และจะมีโครงการตั้งโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมฯ ที่นิคมอุตสาหกรรมพื้นที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงบางส่วนยังไม่เข้าใจข้อมูล และ หวั่นผลกระทบต่อชุมชนสิ่งแวดล้อม
ในช่วงเดือนตุลาคม- พฤศจิกายน 2566 ผ่านมา ทางโครงการฯ โดย บริษัท เดอะพราว พาวเวอร์ จำกัด และ บริษัท มีขวัญ พาวเวอร์ จำกัด เจ้าของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ อ.ปลวกแดง จ.ระยองได้ประชาสัมพันธ์และจัดประชาคมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งมีการนำกลุ่มผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่หลายร้อยคนได้ไปศึกษาดูโรงไฟฟ้าฯของจริงมาแล้ว เมื่อวันที่15 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้นำสื่อมวลชน 3 จังหวัด คือระยอง ชลบุรี ปราจีนบุรี เดินทางไปศึกษาดูงานตรวจสอบข้อเท็จจริง และสัมผัสจริงกับโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม ที่ บริษัทรีคัฟเวอรี่ เฮ้าส์ จำกัด อ.นครหลวง จ.อยุธยา และ มีนายศราวุธ เจตินัย วิศวกรโรงไฟฟ้าฯ เป็นผู้บรรยาย และ นางสาวญาดา น่าชม เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมบรรยายตอบคำถามข้อกังวลใจของผู้เข้าเยี่ยมชม และพาเยี่ยมชมทุกส่วนของ โรงงานกระบวนการผลิตโดยละเอียด
ข่าวน่าสนใจ:
การศึกษาไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม พบว่า มีการใช้เชื้อเพลิงเป็นเพียงเฉพาะเศษวัสดุที่เหลือใช้จากการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น ได้แก่ เศษกระดาษ เศษไม้ เศษผ้า เศษยาง เศษหนัง และ พลาสติก ซึ่งไม่ใช่ขยะจากครัวเรือน หรือขยะพิษ หรือขยะอิเลคทรอนิกส์ แต่อย่างได และมีการตรวจสอบแหล่งที่มาและจำนวนควบคุมโดยหน่วยงานราชการ ซึ่งกรรมวิธีมีการคัดแยกเศษวัสดุที่สับหรือตัดให้ละเอียดก่อนอัดก้อนควบคุมความชื้นไม่เกิน 30 % เทคโนโลยีที่มาตรฐานผลิตกระแสไฟฟ้าใช้การเผาไหม้ไปต้มน้ำเป็นไอน้ำปั่นไดนาโมกำเนิดกระแสไฟฟ้า ข้อสำคัญในการเผาไหม้จะเผาที่ความร้อน 850 -1,100 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ โดยจะไม่เกิดควันหรือคาร์บอนไดออกไซด์ และสามารถควบคุมการเกิดสารไดออกซิน (Dioxin) และ ออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ได้ 99.99 เปอร์เซ็น มีระบบกรองฝุ่นละอองที่ละเอียดถึง PM 2.5 ป้องกันฝุ่นละอองที่อาจจะเกิดขึ้น และมีการกำกับตรวจสอบของหน่วยงานกำกับกรมควบคุมมลพิษ
โดยมีการติดตั้งระบบ CEMs ในการตรวจวัดสารต่างๆที่ปล่อยออกจากปล่องของโรงไฟฟ้าตลอดเวลา(แบบเรียลไทม์) เพื่อตรวจวัดปริมาณมลสารทางอากาศ 24 ชม. จึงสามารถควบคุมมลสารทางอากาศได้ (เช่น ค่า Nox,SOx,TSP,HCI และสารไดออกซิน ) ไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด โรงไฟฟ้าฯจะน้ำประปาที่สะอาดจากนิคมอุตสาหกรรมฯ และ ยังนำมากรองผ่านระบบ RO และดึงแร่ธาตุในน้ำออกให้บริสุทธิ์ จึงจะเหมาะสมนำไปต้มในการผลิตไฟฟ้าฯ ส่วนน้ำที่เหลือจากกระบวนการผลิตจะถูกหมุนเวียนใช้ในระบบต่อไป จะไม่มีการปล่อยน้ำที่ผ่านระบบออกสู่นอกโรงงานไฟฟ้า ส่วนเถ้าที่เกิดจากการเผาไหม้ เป็นขี้เถ้าที่ไม่มีสารพิษเจือปน และกฎหมายกำหนดให้ทางบริษัทฯ นำไปกำจัดยังหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด ที่จังหวัดสระบุรี จะไม่มีกากขยะขี้เถ้าเหลือในพื้นที่เลย วิศวกรตอบข้อซักถามของผู้เข้าร่วมศึกษาดูงาน และมีการเข้าชมการผลิตทุกพื้นที่ทุกขั้นตอน
ส่วนประโยชน์ที่ชุมชนได้รับจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ได้แก่การเพิ่มอัตราการจ้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนและสร้างความเจริญให้กับคนในพื้นที่กว่า 80% และยังเสียภาษีบำรุงพื้นที่ โดยเฉพาะภาษีโรงเรือนให้กับท้องถิ่นได้พัฒนาพื้นที่ของตนเอง และที่สำคัญยังมีกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโดยทางบริษัท จะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนฯเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น (อัตราตามกฎหมายกำหนด) ในช่วงก่อสร้างได้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และมีโอกาสในการจ้างงานลูกหลานในพื้นที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการลดปริมาณขยะอุตสาหกรรมของประเทศ และเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของจังหวัดและประเทศด้วย ซึ่งนับเป็นยุทธศาสตร์และนโยบายของประเทศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: