จากตาข่ายที่ใช้ดักขยะปลายท่อ ต่อยอดนำมาทดลอง ใช้ล้อมเป็นเครื่องเครื่องมือเก็บกู้ผักตบชวาออกจากแม่น้ำ ได้วันละ 8-10 ตัน ประหยัดงบประมาณ ทุ่นเวลา ได้ประโยชน์พร้อมรับมือภาวะน้ำหลากจากฝนตกหนัก และยังได้ปุ๋ยหมักจากผักตบอีกด้วย
กองช่างฝ่ายช่างสุขาภิบาลเทศบาลนครระยองระดมเจ้าหน้าที่เข้าจัดเก็บผักตบชวาในแม่น้ำระยอง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก ที่จะไหลลงสู่ทะเลมีลักษณะเป็นรูปตัววาย หลังจากใช้เครื่องมือดักผักตบชวา ที่มีลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อกั้นผักตบชวาไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล จากนั้น ก็ใช้ตาข่ายล้อมผักตบชวา ก่อนจะยกขึ้นไปใส่รถ
นายชญชม ปลื้มวุฒิวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายช่างสุขาภิบาลเทศบาลนครระยอง บอกว่าวิธีการจัดเก็บในลักษณะนี้ไม่เพียงจะประหยัดต้นทุนยังประหยัดเวลาและแรงงานด้วย เพราะทำงานในช่วงการเก็บผักตบชวา จุดเดียวก็จะกำจัดได้วันละ 8-10 ตัน ซ้ำยังช่วยเปิดทางน้ำไม่ให้เกิดภาวะอุดตัน เพื่อรับมือกับน้ำหลากในช่วงหน้าฝน ที่สำคัญผักตบชวาที่จัดเก็บขึ้นมาได้จะถูกนำไปสับและหมักด้วยกากน้ำตาลเพื่อทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ ใช้บำรุงรักษาต้นไม้ตามริมทาง และแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อนำไปใส่ต้นไม้ โดยความสำเร็จที่เกิดขึ้น มาจากการสนับสนุนของผู้บริหารเทศบาลนครระยอง ที่เล็งเห็นความสำคัญของการจัดการผักตบชวา รวมทั้งทีมงานช่างที่ร่วมแรงร่วมใจในการทำงานกันอย่างเต็มกำลังและความสามารถ
โดยตาข่ายก็ทำกันขึ้นเองเหมือนตาข่ายที่ใช้สวมปากท่อรอรับขยะไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล แต่ตาข่ายที่ใช้ล้อมผักตบชวานั้น จะกางออกได้สี่มุม เมื่อผักตบในปริมาณที่พอเหมาะก็ห่อสี่มุมเข้าหากันแล้วยกขึ้นเหมือนอวนล้อมปลาในทะเล แต่การจะให้ผักตบชวามาอยู่รวมกัน พร้อมกำจัดนั้น ต้องมีทุ่นดักจับผักตบชวาเป็นอุปกรณ์หลัก
สำหรับทุ่นดักจับผักตบชวาเป็นภูมิปัญญาที่คิดโดยกองช่างสุขาภิบาลเทศบาลนครระยอง และกำลังจะยื่นขอจดอนุสิทธิบัตร เพราะไม่เพียงจะใช้ต้นทุนน้อยในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม ยังใช้งบประมาณน้อยมาก หากเทียบกับการจัดการแบบทั่วไป ลักษณะของทุ่นจัดเก็บผักตบชวา จะเป็นทุนลอยน้ำที่มีแขนกางออกไปทั้งสองด้าน ทำจากท่อพีวีซีแกนกลางสามารถหมุนซ้ายหรือขวา เพื่อเปิดเส้นทางน้ำและการสัญจรทางน้ำ เมื่อยังไม่ถึงระยะเวลาในการจัดเก็บ ด้านล่างจะเป็นถุงตาข่ายขนาดใหญ่เพื่อไม่ให้ขยะเล็ดลอดออกไปจากทุ่น ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บด้วย
