เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 22 เม.ย.นายภีมเดช อมรสุคนธ์ ประธานสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก ตัวแทนชาวบ้าน พร้อมชาวบ้านเกาะเสม็ด และ ชาวบ้านเพ ม.4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ได้เดินทางมารวมตัวกว่าร้อยคนบริเวณหน้า ที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เพื่อยื่นหนังสือหลังได้รับความเดือดร้อน จากการให้สัมปทานท่าเรือกับเอกชน และ การเรียกเก็บเงินค่าใช้ท่าเรือคนละ20บาท จนทำให้เดือดร้อน และ เสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะเสม็ด
โดยมีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ นายประยูร พงศ์พันธ์ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ได้เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน โดยนายภีมเดช อมรสุคนธ์ ตัวแทนชาวบ้าน ได้ กล่าวว่า จากการที่ชาวบ้านมารวมตัวกันยื่นหนังสือ สืบเนื่องจาก กรณีที่ ทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (อบจ.ระยอง) ได้มีการให้สัมปทานท่าเรือเกาะเสม็ดให้กับเอกชน และ มีการเรียกเก็บค่าใช้บริการท่าเรือเกาะเสม็ด คนละ 20 บาท ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว และ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกันฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองกลางในขณะนี้ ในฐานะที่ทาง อุทยานฯเป็นเจ้าของพื้นที่ จึงต้องการให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อยกเลิกการเรียกเก็บค่าใช้บริการดังกล่าว เพราะก่อนเริ่มการก่อสร้าง ทางอบจ.ระยอง ได้ทำเอ็มโอยู กับ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด โดยมีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร กับวัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง ว่า การก่อสร้างท่าเรือแห่งใหม่ เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยว และ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยไม่มีการแจ้งว่าจะเรียกเก็บผลประโยชน์หลังก่อสร้างแล้วเสร็จ จึงต้องการให้ทางอุทยานฯตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน
ด้านชาวบ้านที่มารวมตัวต่างก็ต้องการให้ยกเลิกการจัดเก็บค่าบริการท่าเรือ เพราะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ อบจ.ระยอง ที่ นำท่าเรือที่สร้างจากภาษีประชาชนไปสัมปทานให้กับเอกชน แล้ว มาเก็บผลประโยชน์จากประชาชน และ นักท่องเที่ยว โดยก่อนสร้างมาบอกชาวบ้านว่าเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ไม่มีการแจ้งว่าจะสัมปทานให้เอกชน และ เรียกเก็บเงินค่าใช้บริการ แต่มาออกกฎระเบียบตอนที่สร้างเสร็จแล้ว จึงต้องการให้ทางอุทยานฯช่วยตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อความเป็นธรรมต่อชาวบ้านด้วย
นายประยูร พงศ์พันธ์ หน.อุทยานฯ ได้ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ทางอุทยานฯได้ทราบเรื่อง ความเดือดร้อนของชาวบ้าน และ มีการ รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องแล้ว ก็จะต้องรอการตรวจสอบ และเร่งดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้กล่าวหลังรับเรื่องว่า กรณีดังกล่าว ตัองตรวจสอบว่า มีการแจ้งวัตถุประสงค์ในการทำเอ็มโอยูกับทางอุทยานฯ ว่ามีการแจ้งไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ ว่า จะมีการเรียกเก็บผลประโยชน์ ถ้าไม่มีการแจ้งก็ถือว่าเป็นการสุ่มเสี่ยง เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น จากหลักฐานบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ที่ทำขึ้น ระหว่าง อบจ.ระยอง และ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2552 ไม่มีการแจ้งว่าจะเรียกเก็บผลประโยชน์ มีเพียงการแจ้งไว่ว่า เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและนักท่องเที่ยว และ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สำหรับเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจะมีการตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการต่อไป ขอให้ชาวบ้านสบายใจ ได้จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความถูกต้อง
