นางลำใย นิจมหา อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 3 ตำบลนาตาขวัญ อำเภอเมืองจังหวัดระยอง เผยว่า ทำสวนเงาะสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ในที่ดิน 14ไร่ ปัจจุบัน มีเงาะอยู่ 220 ต้น ต้องบำรุงรักษา อย่างดี โดยเฉพาะปีนี้ ทราบว่าเงาะมีราคา จึงลงทุน ไปกว่า 2 แสนบาท โดยกู้เงินจาก ธกส. และหยิบยืมญาติพี่น้อง เพื่อให้ได้ผลผลิตดีและมีคุณภาพ อีกทั้งยังได้ลงทุนซื้อไม้ไผ่สำหรับค้ำกิ่งเพื่อรับน้ำหนัก ว่าจ้างคนงานรอการเก็บ ยอมตรากตรำตื่นตีหนึ่งเพื่อรอเวลารดน้ำ ตั้งแต่ดอกกลายเป็นผลเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนก็จะเก็บขายได้ คาดการว่าจะมีรายได้ปีนี้กว่า 7แสน หลังใช้หนี้ก็เหลือเก็บเป็นทุนต่อ แต่เมื่อเงาะสบัดหล่นจากต้น ตอนนี้ ความหวังพังทลาย เพราะเงาะที่เหลือ น่าจะขายได้เพียงพอแค่การลงทุนไปเท่านั้น
ด้านนาง สมควร ปรางศรี อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 70 หมู่ 4 ตำบลนาตาขวัญ อำเภอเมือง จ. ระยอง กล่าวว่า ทำสวนมาตั้งแต่จำความได้ ก็เพิ่งมาเจอสภาพอากาศที่แปรปรวนมาก ร้อนจัดและเกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานสามวัน ทำให้เงาะอายุ 6-7 สัปดาห์ ในวัยที่กำลังสร้างเนื้อ ถูกต้นสะบัดลูกทิ้ง ร่วงเกือบหมด บางช่อ เคยมี 10-30 ลูกสะบัดทิ้งเกือบหมดช่อ เป็นที่น่าใจหายเพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนก็จะเก็บขายได้เงินแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวสวนเงาะเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติ ซึ่งไม่อาจคาดเดา จึงเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งของเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่ต้องเผชิญ นอกเหนือจากราคาผลผลิตตกต่ำ ปุ๋ยยาราคาแพง แรงงานหายาก ปัญหาต่างๆจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ เกษตรกรบางราย ทดท้อ จนถึงลูกหลานที่ไม่นิยมสืบต่ออาชีพทำสวนของบรรพบุรุษ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: