ขอนแก่น – อดีตผู้การฯ ตำรวจเมืองเลยเบี้ยวให้ปากคำคณะ กก.สอบข้อเท็จจริง กรณีอมเงินตำรวจผู้น้อย 193 นาย มูลค่ากว่า 229 ล้านบาท ด้านประธานคณะกรรมการฯ เผยนัดครั้งที่ 3 หากไม่มา เตรียมฟันทั้งวินัยและอาญา
สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ภ.จว.เลย 193 นาย ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ผบช.ภ.4 ว่าตกเป็นผู้เสียหายจากโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย รวมมูลค่ากว่า 229 ล้านบาท เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2560 และเป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 เป็นประธานสอบสวน
เบื้องต้นทราบว่า หลังกลุ่มตำรวจผู้เสียหายกู้เงินจากสหกรณ์ฯ และธนาคารต่างๆ แล้วได้โอนเงินไปให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รอง ผบช.สำนักงานกำลังพล อดีต ผบก.ภ.จว.เลย ซึ่งอ้างว่า ได้ตั้งกองทุนปลดหนี้ให้กับข้าราชการตำรวจ โดยกำหนดเงื่อนไขว่า จะรับผิดชอบเรื่องภาระหนี้สินแทน แต่พบว่า ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มตำรวจผู้เสียหายถูกธนาคารและไฟแนนซ์ติดตามทวงหนี้เพราะไม่มีการชำระเงินค่างวดใดๆ ทั้งสิ้น จนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- คืบหน้า!เจ้าของร้านหื่น คุกคามทางเพศพนักงาน ขอมีเซ็กซ์ ส่งภาพโป๊-ของลับ ให้ประจำ ด้านเจ้าของร้านปิดปากเงียบ
- องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2568 มอบให้ทหารกองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว
- "ตรังโมเดล" โกโก้สร้างรายได้ให้เกษตรกร กิโลกรัมละ 8 บาท ภาคเกษตร-เอกชนร่วมมือเปิดจุดรับซื้อ 11 แห่ง
- บุรีรัมย์ ปล่อยแถวระดมกวาดล้าง ตรวจค้น ยาเสพติด ก่อนปีใหม่
ด้านคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ จึงมีหนังสือเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.61 แจ้งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ เดินทางมาให้ข้อมูลแก่คณะกรรมการ แต่ พล.ต.ต.สุทิพย์ ขอเลื่อนการให้ปากคำเป็นวันนี้ แต่ในที่สุดก็ยังไม่เดินทางมาแต่อย่างใด
เรื่องนี้ พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุทิพย์ ได้ขอเลื่อนการให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ โดยมีหนังสือแจ้งว่า ติดราชการ และติดขัดเรื่องเอกสารหลักฐานที่จะนำมาชี้แจง จึงขอเลื่อนมาเป็นวันนี้ เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย อดีต ผบก.ภ.จว.เลย ก็ไม่มา ทราบว่า ทางเจ้าตัวได้ส่งอีเมลมาขอเลื่อนอีกเป็นครั้งที่ 2 เพราะกำลังหาเอกสารชี้แจง พร้อมกับติดตามเงินจำนวน 200 กว่าล้านบาท เนื่องจากหลังตกเป็นข่าวส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการติดตามเงินจำนวนดังกล่าว ทางคณะกรรมการฯ จึงได้นัดหมายวันที่ 13 มิ.ย. 2561 ต้องมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการให้ได้ เพราะเป็นครั้งสุดท้ายที่ให้เลื่อนนัด
“อย่างไรก็ตามถ้าครบกำหนดแล้ว อดีตผู้การฯ เลย ยังไม่มา ทางคณะกรรมการฯ ก็จะสรุปสำนวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงส่งให้ ผบช.ภ.4 พร้อมดำเนินการตามระบบราชการซึ่งจะมีโทษทั้งทางอาญาและทางวินัย โดยจะแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน ส่วนโทษทางวินัยทาง สนช.ตร.จะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้” พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: