ขอนแก่น – ศาลจังหวัดพลพิพากษาจำคุก นพ.เปรมศักดิ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่และเลขาฯ 2 เดือนโดยไม่รอลงอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ในคดีกระทำอนาจารแก้ผ้านักข่าวเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน ด้านเจ้าตัวยื่นหลักทรัพย์ 120,000 บาท ขอประกันตัวออกไป
วันนี้ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ที่ศาลจังหวัดพล นัดอ่านคำพิพากษาคดีดำเลขที่ 1519/2560 ซึ่งมีนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือหมอเปรม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ พร้อมพวกเป็นจำเลย ในข้อหา “ข่มขืนใจ บังคับขู่เข็ญทำให้ตกใจกลัว และกระทำการต่อหน้าธารกำนัล” โดยมีนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวอาวุโส เป็นโจทย์ยื่นฟ้องหมอเปรมพร้อมพวก บรรยากาศในช่วงเช้าก่อนขึ้นรับฟังการพิจารณาคดี นายแพทย์เปรมศักดิ์ ไม่ได้ให้สัมภาษ์ณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน แต่ตอบเพียงว่า ให้เป็นดุลพินิจของศาล ก่อนจะเดินขึ้นห้องพิจารณาคดีไป
ทั้งนี้คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ วันที่ 26 ก.ค. 2559 โดยผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่นได้ติดตามทำข่าว กรณีมีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดียเป็นภาพ นพ.เปรมศักดิ์ นั่งคู่กับหญิงสาวชั้น ม.5 โดยที่ด้านหน้ามีพานใส่ธนบัตรจำนวนหนึ่ง และมีสำเนาทะเบียนรถยนต์เล่มสีน้ำเงินวางอยู่ 1 เล่ม พร้อมพระพุทธรูป โดยมีคนเฒ่าคนแก่กำลังผูกแขนคล้ายมีพิธีหมั้นหรือพิธีมงคลสมรสตามประเพณีอีสาน
เมื่อผู้สื่อข่าวทั้งหมดได้ขอพบและสัมภาษณ์หมอเปรม ภายในที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้สร้างความไม่พอใจให้หมอเปรมเป็นอย่างมาก และได้บอกให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักเข้าไปภายในห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ เมื่อผู้สื่อข่าวทั้งหมดเข้าไปในห้องกลับถูกหมอเปรมสั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลซึ่งเป็นลูกน้องเก็บโทรศัพท์มือถือและกล้องถ่ายภาพของผู้สื่อข่าวทั้งหมด พร้อมกับล็อกตัวผู้สื่อข่าว นสพ.เดลินิวส์ ประจำ จ.ขอนแก่นแก้ผ้าประจาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.ค.2559 ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนัก จึงเข้าแจ้งความเอาผิดกับหมอเปรมพร้อมพวกรวม 7 คน ที่ สภ.บ้านไผ่ ในข้อหา “ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทำการกักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับข่มขืนจิตใจ ให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการ และกระทำการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล“ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ได้สรุปสำนวนคำฟ้องส่งให้กับอัยการจังหวัดพลเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2559
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 60 ทางอัยการจังหวัดพลได้มีความเห็นสั่งฟ้องเฉพาะ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ กับ ร.ต.บัวทอง โลขันธ์ เลขาฯ หมอเปรม เพียง 2 คนเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 คนที่ร่วมกันกระทำผิดกับหมอเปรมทางอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า จากการตรวจสอบสำนวนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเสนอมา พบว่า บางคนก็ไม่อยู่ในข่ายร่วมการกระทำกับหมอเปรม ขณะที่ฝ่ายโจทย์ที่ยื่นฟ้องหมอเปรมคือ ผสข.ทั้ง 5 สำนักข่าวนั้น อัยการมีความเห็นว่าผู้สื่อข่าวจาก 4 สำนักไม่ใช่ผู้เสียหาย จะมีเพียงนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผสข.เดลินิวส์ ที่โดนถอดกางเกงคนเดียวเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย จึงทำให้ข้อหาที่ยื่นฟ้องไปคือ “ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทำการกักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับข่มขืนจิตใจ ให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการใด” จึงเป็นอันตกไป อัยการจึงสั่งฟ้องในข้อหา “ข่มขืนใจ บังคับขู่เข็ญทำให้ตกใจกลัว และกระทำการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล”
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค.60 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใน ขณะนั้นได้มีคำสั่งให้ นพ.เปรมศักดิ์ พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ตามผลสอบของคณะกรรมการสอบสวนโดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้สรุปเรื่องแจ้งมายังกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเชื่อได้ว่า นพ.เปรมศักดิ์ กระทำผิดคุกคามผู้สื่อข่าว บังคับขู่เข็นมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและผิดจริยธรรมตาม พ.ร.บ.เทศบาล จึงให้พ้นจากตำแหน่ง โดยก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2560 สมาคมสันนิบาตเทศบาลจังหวัดขอนแก่น เพิ่งจะมีมติให้ถอด ถอน นพ.เปรมศักดิ์ ออกจากตำแหน่งประธานสมาคมฯ เนื่องจากเจ้าตัวอยู่ระหว่างถูก ม.44 สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ไม่สามารถบริหารงานได้
ในวันนี้ผู้พิพากษาใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 1 ชม. ก่อนมีคำตัดสินจำคุก นพ.เปรมศักดิ์ และ ร.ต.บัวทอง เป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ด้านนายปกาญจน์ นพศรี ทนายฝ่ายโจทก์ ระบุว่า ศาลได้พิจารณาโทษสูงสุดโดยให้เหตุผลว่า จำเลยทั้ง 2 คน เป็นนักการเมืองเป็นบุคคลสาธารณะ และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการคุกคามสื่อมวลชน ขณะที่ทนายความของ นพ.เปรมศักดิ์ ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินคนละ 120,000 บาท เพื่อขอประกันตัว ด้านนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวอาวุโส ในฐานะโจทก์ยื่นฟ้อง บอกว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ติดใจเอาความแล้ว แต่ก็อยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของสื่อมวลชนทุกคน
