ขอนแก่น – รมต.พลังงาน ลงพื้นที่อีสานตอนบน ประกาศกร้าวเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชน พร้อมคาดโทษหนักหากมี จนท.เรียกรับสินบนจัดตั้งโรงไฟฟ้า
วันนี้ ที่ห้องประชุมเสียงแคน ภายในศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อมอบนโยบายพลังงานชุมชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยมีการรายงานแนวทางการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน และนโยบายด้านพลังงานอื่นๆ จากพลังงานจังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และ มหาสารคาม และรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการพลังงาน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ตัวแทนจากส่วนราชการ เข้าร่วมรับฟัง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ประชาชนและผู้ประกอบการให้การตอบรับนโยบายพลังงานดังกล่าวเป็นอย่างดี เนื่องจากนโยบายของกระทรวงพลังงานได้ส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ถือเป็นการพลิกมิติด้านพลังงานคร้ังสำคัญ ตอบโจทย์ประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศสามารถเข้าถึงพลังงานได้ โดยนอกจากจะมีส่วนช่วยยกระดับให้ชุมชนได้เป็นผู้ผลิต ผู้ใช้ และผู้จำหน่ายไฟได้เองแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาปากท้อง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดการย้ายถิ่น ฐาน สามารถเพิ่มการลงทุนในพื้นที่ได้อีก เช่น การปลูกพืชพลังงานเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง รวมท้ังลดปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จากการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในที่โล่งแจ้ง ซึ่งในท้ายที่สุดจะทำให้ คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ และด้านสุขภาพ
ข่าวน่าสนใจ:
- งานประเพณีลอยกระทงหาดพยูน สร้างบ่อน้ำริมชายหาดให้ ปชช. ได้ร่วมลอยกระทง แทนลอยในทะเล ป้องกันกระทบสัตว์น้ำ
- วธ.จัด“ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” น้อง“หมูเด้ง” Thai Cuteness ร่วมสร้างสีสัน
- นายฮ้อยปางควายเวียงหนองหล่มใกล้สูญ
- นครพนม สุดสลดเพลิงพิโรธรุ่งวอด 9 หลัง ชาวบ้านไร้ที่อยู่ จนท.เร่งช่วยเหลือ
สำหรับเรื่องโรงไฟฟ้าชุมชน นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญและอยากเห็นผลสำเร็จร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าและชุมชน คาดว่า รายละเอียดหลักเกณฑ์การจัดต้ังโรงไฟฟ้าชุมชนจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ และคาดว่าจะมีคำขอเกินเป้าหมายที่กระทรวงพลังงานวางไว้ ซึ่งโจทย์หลักคือประโยชน์ชุมชน สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง มีชีวิตที่ดีขึ้น สามารถขายวัตถุดิบทางการเกษตรต่างๆ เป็นรายได้ ลดการเผา ลดปัญหา PM 2.5 ได้ด้วย อีกทั้งยังทำเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งได้อีก เชื่อว่าพืชพลังงานที่จะนำมาใช้ในโรงไฟฟ้าจะต้องสร้างรายได้ต่อไร่ต่อปีที่มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน เป็นเกษตรพันธะสัญญากับโรงไฟฟ้า ปลูกแล้วรับซื้อกันไปได้ถึง 20 ปีเป็นอย่างน้อย
ท้ังนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาดำเนินงานร่วมกันกับชุนชน พร้อมย้ำว่า หากมี เจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าวจะลงโทษสถานหนัก และขอให้ ผู้สนใจร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งข่าวให้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วิสาหกิจชุมชน 133 แห่งทั่วประเทศรวมพลังเตรียมยื่นประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน 133 โรง 400 เมกะวัตต์
- “น้าสน” จัดให้ ”สาวะถีโมเดล” ปลดหนี้เป็น 0 ทั้งตำบลใน 3 ปี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: