ขอนแก่น–หอการค้าคาดร้านอาหารและร้านค้าปลีกจะได้ปลดล็อคเร็วๆ นี้ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขสุขอนามัยที่ดี แนะเช็คความพร้อมใน “ขอนแก่นสต็อปโควิด” รับการเปิดกิจการ
นายกมลพงศ์ สงวนตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจใน จ.ขอนแก่น หากมีการคลายมาตรการล็อคดาวน์ของจังหวัดเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า คงต้องมองเรื่องนี้เป็น 2 ส่วน อย่างแรกคือ เรื่องมาตรฐานทางสาธารณสุข หากว่าเปิดกลับมาแล้ว มีการระบาดอีกรอบก็คงไม่ดีแน่ ผู้ประกอบการทุกแห่งจะต้องมีการเตรียมมาตรฐานสาธารณสุขที่พร้อมสำหรับการกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจอีกครั้ง นี่เป็นประเด็นสำคัญ
ประเด็นที่สองก็คือเรื่องของธุรกิจจะกลับมาได้อย่างไร จะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร ทางหอการค้าได้เชิญ 8 องค์กรเศรษฐกิจในจังหวัดขอนแก่นมาร่วมพูดคุยกันในเร็วๆ นี้ว่า จะมีมาตรการทางด้านสาธารณสุขและมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง
ในเรื่องของแผนด้านสาธารณสุขก็จะใช้แอพพลิเคชั่น “ขอนแก่นสต็อปโควิด” ซึ่งมีเรื่องของมาตรฐานด้านสาธารณสุข มี self check สำหรับสถานประกอบการสามารถเช็คตัวเองว่า มีความพร้อมหรือไม่ อย่างไร ถ้าหากตรวจสอบแล้วว่าพร้อมทุกอย่าง ก็อาจจะอนุญาตให้เปิดได้โดยทยอยกันเปิด
ประเด็นที่สองก็คงต้องไปดูเรื่องของ area base ว่า พื้นที่ไหนมีผู้ติดเชื้อมากน้อยเพียงไร เช่นอำเภอนี้เพิ่งพบผู้ติดเชื้อก็จะต้องเว้นระยะไป 14 วันก่อน หลังจากนั้นค่อยเปิดดำเนินการได้ ต่อมาก็คือ sector base ก็คือกลุ่มธุรกิจ น่าจะเริ่มจากกลุ่มธุรกิจที่ไม่มีการสัมผัสตัวกันก่อน เช่น ร้านอาหารห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกต่างๆ ที่สามารถเว้นระยะห่างได้ เข้าไปแล้วไม่แออัดจนเกินไป กลุ่มนี้ก็มีโอกาสจะได้รับการพิจารณาเปิด ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดกันก็อาจจะต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง และต้องมีการทำแผนด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดอีกระดับหนึ่ง ก่อนที่จะสามารถกลับมาเปิดได้
ในประเด็นเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราก็มองอยู่ว่า ต้องพูดคุยกับส่วนกลางว่า จะมีการลงทุน มีงานมาจัดในพื้นที่ได้ไหม มีการจัดประชุมสัมมนาแบบคนไม่มาก เว้นระยะห่างกัน มีการดูแลเรื่องของสาธารณสุขที่ดี ส่วนแผนการท่องเที่ยวก็ต้องดูว่า จะสามารถมีการจัดทัวร์แบบที่มีการเว้นระยะห่างกันได้ไหม เช่น solotraveler ของท่านผู้ว่าฯ ก็คงต้องมีการเตรียมแผนกันอีกทางหนึ่ง
หลังจากนี้จะต้องมีข้อปฏิบัติสำหรับสถานประกอบการและประชาชนทั่วไป ประกอบด้วย 1.การสวมแมส เราต้องสวมแมสต่อไปอีกระยะหนึ่ง อันนี้คงต้องทำจนติดเป็นนิสัย 2.การล้างมือ สถานบริการต่างๆ ต้องจัดสถานที่ให้บริการล้างมือ หรือไม่ก็จัดเจลแอลกอฮอล์ให้บริการ และ 3.การจัดโซเชียลดิสแทนซิ่งให้เหมาะสม เช่น พื้นที่ในร้านกี่ตารางเมตรจะจัดให้คนเข้าไปนั่งทานได้แค่กี่คน อันนี้ก็ต้องมีการตกลงกัน แล้วก็ต้องกำหนดให้เป็นมาตรฐาน
ในส่วนผู้ประกอบการธุรกิจ ตอนนี้ก็ทางแบงค์ชาติและธนาคารพาณิชย์ก็ได้มีมาตรการต่างๆออกมาช่วยเหลือกันอยู่แล้ว ทางหอการค้าก็ได้สอบถามกลุ่มเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการต่างๆ ว่าได้รับสิทธิ์ตรงนี้อย่างทั่วถึงกันหรือไม่ หรือมีปัญหาอย่างไร
ในส่วนของประชาชนซึ่งมีทั้งผู้ที่อยู่ในฐานะพนักงานกินเงินเดือนและกลุ่มอาชีพอิสระ ส่วนของผู้ที่มีเงินเดือนตอนนี้เราก็ได้พูดคุยกับทางผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหรือห้างร้านต่างๆ ขอให้ชะลอการเลิกจ้าง ให้พยุงกันไปก่อน เพราะหากว่าเลออฟกันมากธุรกิจเราจะกลับคืนมาไม่ได้ ส่วนของภาค รัฐเองก็มีทั้งประกันสังคมที่เข้ามาช่วยผ่อนคลายในหลายหลายธุรกิจ ในส่วนของอาชีพอิสระก็มีเรื่องเงินชดเชยจากภาครัฐ จำนวน 5,000 บาท ในจังหวัดขอนแก่นเราก็สนับสนุนมาตรการขอให้ ”คนขอนแก่นอุดหนุนกันเอง” มีขอนแก่นมาร์เก็ต มีรถสมาร์ทพุ่มพวง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี ก็มีการพูดคุยกันอยู่ว่าจะสามารถขยายเส้นทางได้ไหม หรือว่าจะรับของจากกลุ่มต่างๆ เข้ามาเพิ่ม เช่น ร้านค้าหรือเกษตรกรต่างๆ เพื่อช่วยกระจายสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ทั้งหมดนี้ก็เป็นโครงการที่กำลังเร่งทำอยู่ในขณะนี้
ช่วงนี้ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ก็ยังไม่มีข่าวว่า สถานประกอบการขนาดใหญ่จะมีการเลิกจ้าง อาจมีบ้างที่มีการพูดคุยตกลงกับพนักงานที่จะขอลดเงินเดือนลงมา ขอให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายกันเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ได้เลิกจ้าง คาดว่าหากสถานการณ์ดีขึ้น ธุรกิจสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้งภายในสิ้นเดือนนี้หรือสิ้นเดือนหน้าไม่ลากยาวต่อไปอีก คิดว่า การเลิกจ้างใน จ.ขอนแก่น ก็ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และจากการที่ได้เข้าไปดูก็พบว่า โรงงานขนาดใหญ่ในพื้นที่ก็มีมาตรฐานในเรื่องของสาธารณสุขที่ดี
แต่กลุ่มที่น่าห่วงก็คือ ร้านค้าปลีกที่ต้องถูกปิดไปเพราะเรื่องของ พรก.ฉุกเฉิน ถ้าร้านค้าและร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการได้ คิดว่าจะช่วยเรื่องเศรษฐกิจให้ค่อยๆ ดีขึ้น เพราะเป็นภาคธุรกิจที่มีคนทำงานอยู่ในกลุ่มนี้ค่อนข้างมาก กลุ่มต่อไปก็คงเป็นเรื่องของโรงแรม เรื่องมาตรการสาธารณสุขไม่มีปัญหา แต่อาจติดเรื่องว่า จะมีคนมาเที่ยวหรือเดินทางหรือเปล่า ก็ต้องดูต่อไปว่าจะสามารถจัดประชุมสัมมนา จัดงานจัดอีเวนท์ เพื่อให้คนเดินทางเข้ามา แต่อยู่ในระยะห่างที่เหมาะสมได้หรือไม่
- ททท.ระยอง ชวนเที่ยวไทยจัด 3 กิจกรรมกลางแจ้งสู้ไวรัสโควิด-19
- หมู่บ้านช้างพัทยา วอนบริจาคช่วยเหลืออาหารช้าง หลังได้รับผลกระทบโควิด
- ขอนแก่น สภาอุตสาหกรรมเผยโควิดกระทบภาคการผลิต หวั่นเกิดการเลิกจ้าง
ตอนนี้สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวเพื่อกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง ก็คือในเรื่องของมาตรฐานสาธารณสุขว่า ถ้าจะกลับมาเปิดอีกครั้งเขามีความพร้อมในเรื่องนี้ มีระบบที่ดีแล้วหรือยัง ถ้าเปิดแล้วเราไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ก็จะได้ทยอยเปิดเพิ่มจนครบทั้งจังหวัด และในที่สุดก็จะกลับมาสู่ภาวะปกติได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: