แกนนำกลุ่มราษฎร โขง – ชี – มูล และกลุ่มขอนแก่นพอกันที เดินทางกลับบ้านครบทั้ง 16 คน หลังเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากการจัดกิจกรรมชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในพื้นที่ภาคอีสาน โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น แยกสอบปากคำเป็นรายคน ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้านท่ามกลางกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่เดินทางมาปักหลักชุมนุมให้กำลังใจที่หน้าโรงพัก
วันที่ 22 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีแกนนำกลุ่มราษฎร โขง ชี มูล และกลุ่มขอนแก่นพอกันที รวม 16 คน ประกอบด้วย 1.นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ 2.นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือ เซฟ 3.นายชัยธวัช รามมะเริง 4.นายนิติกร ค้ำชู5.นายกรชนก แสนประเสริฐ 6.นายพชร สารธิยากุล 7.นายธนศักดิ์ โพธิเตมิย์ 8.นายวีรภัทร ศิริสุนทร 9.นายภานุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ 10.นายศรายุทธ นาคมณี 11.นางสาวจตุพร แซ่อึง 12.นายเชษฐา กลิ่นดี 13.นายศิวกร นามนวด 14.นายเจตน์สฤษดิ์ นามโคตร 15.นายอิศเรษฐ์ เจริญคง และ16.นางสาววิศัลยา งามนา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับการจัดการชุมนุมทางการเมือง จากความผิด 3 คดี คือ กรณีชักธงที่มีข้อความว่า “ปฏิรูปสถาบัน” ขึ้นสู่ยอดเสา ที่เสาธงหน้าตึกอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา , และอีก 2 คดี คือกรณีจากการจัดชุมนุมวันที่20 ก.พ.64 คาบเกี่ยวช่วงดึกล่วงเข้าสู่วันที่ 21 ก.พ. 64 โดยพยายามบุกเข้าภายใน สภ.เมืองขอนแก่น และอีกเหตุการณ์หนึ่งคือการชุมนุมหน้าคอมเพล็กซ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 1 มี.ค. 64 และช่วงดึกพากันเดินบุกไปปิดล้อม สภ.ย่อย มข. เนื่องจากไม่พอใจที่แกนนำม็อบคณะราษฎร 4 คน ถูกจับในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตร 112 และศาลไม่ให้ประกันตัว
โดยในระหว่างที่แกนนำทั้ง 16 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหา กลุ่มนักศึกษาและประชาชน ประมาณ 200 คน ได้ปักหลักชุมนุมให้กำลังใจแกนนำที่เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา และได้สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันปราศรัยผ่านโทรโข่งอยู่เป็นระยะ ท่ามกลางการตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนประมาณ 4 กองร้อย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เรียกร้องว่าจะต้องปล่อยตัวแกนนำทั้ง 16 คน ออกมาทั้งหมด ภายหลังจากเข้ารับทราบข้อหาแล้วเสร็จ และมีช่วงหนึ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเข้าไปภายในเขตของ สภ.เมืองขอนแก่น แต่ตำรวจไม่อนุญาต จึงมีการนำสเปย์สีมาฉีดพ้นบนถนนและโล่กำบังของตำรวจควบคุมฝูงชน แต่ไม่มีการปะทะแต่อย่างใด ก่อนที่ในเวลาประมาณ 14.00 น. แกนนำทั้ง 16 คน จะเดินกลับออกมาจาก สภ.เมืองขอนแก่น และเข้าสวมกอดกับผู้ชุมนุมที่มาให้กำลังใจ และมีการกล่าวบทกวีโดยครูใหญ่
นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ กล่าวว่า วันนี้เป็นการรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนปกติ ซึ่งข้อกล่าวหาส่วนมากจะเป็นข้อหาเกี่ยวกับการฝ่าฝืน พ.ร.บ.จราจร, พ.ร.บ.ความสะอาด, การใช้เสียงโดยไม่ขออนุญาต และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งการฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโควิด19 ซึ่งเป็นข้อหาที่มีมาในทุกการชุมนุม แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่เคยมีใครติดโควิดจากการมาชุมนุมก็ตาม ซึ่งการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาจจะช้าบ้างเนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหามากถึง 16 คน โดยได้มีการแยกสอบปากคำเป็นรายบุคคล ซึ่งทางกลุ่มผู้ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้มีความกังวลใจมากนักเกี่ยวกับเรื่องของการส่งตัวฝากขังหลังการรับทราบข้อกล่าวหา แต่ที่เป็นห่วงก็คือภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่มีการตรึงกำลังกันเป็นจำนวนมาก มีการวางรั้วรวดหนามรอบบริเวณ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลกตา ทั้งๆ ที่การมาวันนี้ก็เป็นการมาพบพนักงานสอบสวนตามปกติ อย่างไรก็ดี หลังจากวันนี้ทางผู้ถูกกล่าวหา จะให้การเป็นเอกสาร โดยจะรวบรวมให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หลังจากนั้นจึงมีการนัดหมายส่งให้อัยการอีกครั้ง แต่ขอให้มั่นใจว่าการเคลื่อนไหวต่อสู้จะยังคงดำเนินไปเช่นเดิม เพราะการเคลื่อนไหวก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องควบคู่ไปกับการมีคดีความตามมา ซึ่งทางกลุ่มได้เตรียมพร้อมรับมือไว้อยู่แล้ว
ขณะที่ นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือ เซฟ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกลุ่มจะยังคงมีการเคลื่อนไหวต่อไป ไม่ว่าจะมีการจับกุมดำเนินคดีกับแกนนำกี่คนก็ตาม ก็ไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่แกนนำทั้ง 16 คน กลับออกมาจากรั้ว สภ.เมืองขอนแก่น และทางกลุ่มผู้ชุมได้แสดงความดีใจแล้วเสร็จ ต่างทยอยกันเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - "ยุพราช"ชี้! นักการเมืองไม่จำเป็นต้องรวย แค่เคียงข้าง ปชช.ไม่ทุจริตโกงบ้านเมืองก็พอ
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
- ขอนแก่น พร้อมจัด " Khonkaen Countdown 2025 Rise Beyond" ขอนแก่น พุ่งทะยานสู่อนาคต อย่างยิ่งใหญ่ คาดเงินสะพัด 50 ล้านบาท
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: