ยายวัย 80 ปี เอาผิดหลานชายตนเอง หลังเกิดใช้มีดจ่อคอขอเงินซื้อยาบ้าเสพ และยังอาละวาดก่อกวนชาวบ้านกลางดึก
วันที่ 13 ธ.ค. 64 จากกรณีเพจเฟซบุ๊กโพสต์คลิปหนุ่มเมายาบ้าอาละวาดในหมู่บ้าน โดยระบุข้อความว่า “ทุกข์ชาวบ้าน ปัญหายาเสพติด ที่คนในชุมชนหวาดกลัว ปัญหาที่ยังไม่มีเจ้าภาพเข้าไปจัดการให้จบ วันหน้าจะมีการปาดคอไหม ถ้าปล่อยไว้โดยไม่มีการจับกุมบำบัดรักษา จนท.ตร.ในพื้นที่รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยชาวบ้านด้วย พิกัด บ้านหนองไฮ ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ช่วยด้วยค่ะเด็กคนนี้คือขี้ยาในหมู่บ้านบ้านที่เกิดเหตุคือบ้านของดิฉันเองมีแค่แม่แก่กับลูกสาว ดิฉันทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯเป็นห่วงมาก วานคุณช่วยเป็นกระบอกเสียงจัดการให้ด้วยค่ะไม่มีหน่วยงานไหนรับผิดชอบต้องให้เป็นเรื่องร้ายเกิดขึ้นก่อน ตอนนี้เป็นห่วงแม่กับลูกสาวมากค่ะช่วยด้วยค่ะผู้ใหญ่บ้านไม่สนใจตำรวจก็ไม่เคยออกมาตามคำแจ้ง พ่อแม่ญาติมันก็ไม่เคยสนใจ”
ต่อมา พ.ต.อ.รัตนทัต ศรีพล ผกก.สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้เข้าทำการตรวจนอบที่บริเวณบ้านเลขที่ 123 ม.12 ต.โพนเพ็ก พบตัวนายอิสรา สีจอมพล อายุ 27 ปี จึงได้ให้กำลังตำรวจชุดปรายปราม ได้เข้าเชิญตัวไป สภ.มัญจาคีรี แต่นายอิสราขัดขืน ทำใหต้องใช้กำลังตำรวจ 6 นาย ต้องล๊อคตัวใช้เวลาประมาณ 5 นาที จึงสามารถใส่กุญแจมือได้ ก่อนจะควบคุมตัวขึ้นรถไปสงบสติอารมณ์และควบคุม
นางบุญตา จันทะพร อายุ 80 ปี ยายแท้ๆ เล่าว่า นายอิสรานั้น จะมีบ้านของพ่อแม่ซึ่งอยู่ติดกับบ้านยายบริเวณด้านหลังบ้าน จึงไปๆมาๆระหว่างสองบ้านนี้ตลอดทุกวัน ซึ่งมักจะอาละวาดหลังได้เสพยาบ้า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนนายบิว ได้เกิดอาการคุ้มลั่งและได้มาขอเงินตนเอง โดยใช้มีดปลอกผลไม้ล๊อคคอตนเอง ด้วยความกลัวจึงให้เงินไปจำนวน 300 บาท นอกจากนี้หลานตนเอง ยังเกิดอาการคลุ้มคลั่งนำที่นอนเสื้อผ้าออกมาเผา และใช้เสียมด้ามเหล็กทุบบ้านจนเสียหาย ซึ่งหลังจากที่ตำรวจได้ควบคุมตัวหลานตนเองแล้ว ตนเองจะแจงความเอาผิดกับหลานตนเองให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้ไม่ให้ออกมาสร้างปัญหาให้กับตนเองและชาวบ้านอีก
พ.ต.อ.รัตนทัต ศรีพล ผกก.สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ต่อจากนี้จะได้พนักงานสอบสวนมาสอบปากคำยาย เพื่อจะได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาว่าเข้าข่ายข้อกฎหมายข้อใด ส่วนนายอิสรา จะให้อาการคลุ้มคลั่งลดลงก่อนจากนั้นจะมีการนำไปพบแพทย์ เพราะเนื่องจากพบว่า นายอิสรา เคยเข้ารับการบำบัดที่ รพ.จิตเวชราชนครินทร์ขอนแก่น มาแล้ว แต่นายอิสรากินยาไม่ต่อเนื่อง และจะต้องดูว่าช่วงก่อเหตุนั้นอยู่ในระหว่างการกินยารักษาหรือไม่ หากก่อเหตุอยู่ในระหว่างการป่วย จะมีความผิดแต่จะไม่ต้องรับโทษ ซึ่งจะต้องนำตัวนายอิสราไปตรวจสอบอย่างละอียดต่อไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: