ขอนแก่นเป็นหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสานที่ยังคงสืบสานประเพณีผูกเสี่ยวเอาไว้ โดยในทุก ๆ ปี จะมีการระลึกถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมนี้ผสมผสานเข้ากับอีเวนท์ระดับจังหวัดอย่างการอนุรักษ์ผ้าไหมอีสานและกิจกรรมช้อปชิมชิลล์ในงานกาชาดประจำปี กลายเป็นงานไหมขอนแก่นยิ่งใหญ่สุดอลังการที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาร่วมงานอย่างเนืองแน่นในทุก ๆ ปี
คำว่า “เสี่ยว” ในภาษาอีสานแปลว่า “เพื่อนรัก” พิธีผูกเสี่ยวเป็นประเพณีเก่าแก่และสำคัญของชาวอีสาน ว่ากันว่าเป็นประเพณีดั้งเดิมของกลุ่มวัฒนธรรมไท-ลาว และมีการสืบสานกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังพบข้อมูลในพงศาวดารล้านนาไทยที่ปรากฏความว่า พ่อขุนรามคำแหง พ่อขุนเม็งราย พ่อขุนงำเมือง ได้จัดให้มีพิธีกรรมปฏิญาณตนเป็น “สหาย” หรือ “เสี่ยว” กัน โดยกรีดเลือดลงในจอกสุรา แล้วทรงดื่มเลือดของกันและกัน พร้อมกับกราบไหว้เทพาอารักษ์ให้เป็นพยาน จึงนับเป็นหลักฐานสำคัญของการผูกเสี่ยว
สำหรับปีนี้มีผู้เพื่อนสนิทเข้าร่วมพิธีผูกเสี่ยวหลายคู่ ผู้เข้าร่วมพิธีบอกว่าคำว่าเสี่ยวเป็นภาษาอีสานแท้ ๆ เป็นคำที่คนอีสานคุ้นเคยดีเพราะมีความหมายไทยที่ดีงามแต่ที่ผ่านมามีคนบางกลุ่มนำไปใช้ในเชิงดูหมิ่นดูแคลน บางคนเข้าใจว่าเสี่ยวหมายถึงคนบ้านนอกหรือโง่เง่า ซึ่งแท้ที่จริงแล้วคำว่าเสี่ยวมีความหมายว่ามิตรแท้หรือเพื่อนแท้ เพื่อนตายที่มีความผูกพันและจริงใจต่อกัน
การผูกเสี่ยวคือการนำบุคคล 2 คนที่มีความผูกพันเป็นมิตรกันมาก่อน โดยหลักเกณฑ์ในการเลือกคู่ โดยปกติจะเลือกเพศเดียวกันนอกจากนี้เสี่ยวก็มีลักษณะท่าทาง รูปร่าง อายุ อารมณ์ หรือ บุคลิกภาพที่ใกล้เคียงกัน โดนมีหมอสู่ขวัญเป็นผู้ทำพิธี จากนั้นจะให้ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายผูกข้อมือเป็นคู่เสี่ยวกัน พร้อมกับให้โอวาทและอายพรให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนรัก เพื่อนตายกันช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้งสองครอบครัวและสังคมรอบข้าง
ใครอยากเป็นเสี่ยวกันเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันที่เวทีผูกเสี่ยวมีพ่อพราหมณ์มาทำพิธีผูกคู่เสี่ยวให้ทุกคืนสามารถมาได้จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2565
