ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท. สภอ.) แถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือปี 2565 ว่า เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนธันวาคม ปี 2565 หดตัวมากขึ้น ตามการอุปโภคบริโภคที่หดตัวมากขึ้น จากกําลังซื้อที่ลดลงจากค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูงและรายได้ หลังหักการชําระหนี้ที่อยู่ในระดับต่ํา ขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับ จากเดือนก่อน การผลิตเพื่อการส่งออกที่ยังหดตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ชะลอลงตามเศรษฐกิจโลก
การอุปโภคบริโภค หดตัวมากขึ้น จากการใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าคงทน และกึ่งคงทนที่หดตัว ตามกําลังซื้อ ที่ลดลงจากค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูงรายได้เกษตรกร ขยายตัวต่อเนื่อง จากราคาเป็นสําคัญ โดยเฉพาะข้าวเลือก ปศุสัตว์ และมันสำปะหลัง การลงทุนภาคเอกชน หดตัวต่อเนื่องทั้งการลงทุนด้านก่อสร้างและการลงทุน ด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลงโดยเฉพาะราคาข้าวเปลือก ปศุสัตว์และมันสําปะหลังตามการผลิตน้ำ ตาล สิ่งทอที่ขยายตัว และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับดีขึ้นการใช้จ่ายภาครัฐกลับมาขยายตัวตามรายจ่ายลงทุนเป็นสําคัญขณะที่รายจ่ายประจําหดตัวลดลง
การจ้างงาน เพิ่มขึ้นตามจํานวนผู้มีงานทํามาตรา 33 ที่เพิ่มขึ้น และจํานวนผู้ว่างงานใหม่มาตรา 38 ที่ลดลงการค้าผ่านด่านศุลกากรกลับมาขยายตัวตามมูลค่าการค้ากับประเทศจีน หลังจีน ยกเลิกนโยบาย Zero-COVID เป็นสําคัญ อัตราเงินเฟ้อ 5.67 % สูงขึ้น ตามราคาพลังงาน และอาหารสดที่ปรับสูงขึ้น
ดร.ทรงธรรม เปิดเผยด้วยว่า แนวโน้ม เศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 2566 คาดว่าทรงตัวจากไตรมาสก่อนตามการบริโภคภาคเอกชนที่ยังมีแรงกดดันจากกําลังซื้อที่ลดลงจากค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูงและรายได้หลังหักการชําระหนี้ที่อยู่ในระดับต่ํา หลังสิ้นสุดมาตรการพักชําระหนี้ อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ทยอยปรับดีขึ้นประกอบกับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐจะช่วยพยุงการฟื้นตัวของการบริโภคได้บ้าง สําหรับการผลิตเพื่อจําหน่าย ในประเทศอาทิ การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม คาดว่าขยายตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่การผลิตเพื่อส่งออกทรงตัว ตามความต้องการของประเทศคู่ค้าที่ชะลอลงตามเศรษฐกิจโลก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: