31 ส.ค. 66 นี่คือภาพที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น ได้แฝงตัวเป็นลูกค้าค้าเข้าไปภายในร้าน Suppaweed ท่อม & กัญ ถนนอิงมอ ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยเข้าไปในร้านเวลาเกือบ 03.00น. ก่อนที่จะเข้าไปขอซื้อใบกระท่อมภายในร้าน ขณะที่เข้าไปพบว่าร้านยังคงเปิดให้บริการ โดยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจนแน่นร้าน จากนั้นเมื่อได้น้ำกระท่อมบรรจุขวดจึงได้นำออกมา ก่อนที่จะมีการวางแผนกับเจ้าหน้ที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเข้าจับกุม
จนกระทั่งเวลา 16.30 น. พ.ต.ต.ดนัย ถนอมชีพ สว.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น ร.ต.อ.อานุภาพ ทุมมณี รอง สวป.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อม ตำรวจป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น นายดุลยาภพ แสงสุน ปลัดอำเภอเมืองขอนแก่น และนายวิทวัส อาลัยลักษณ์ สาธารณสุขอำเภอเมืองขอนแก่น สนธิกำลังเข้าตรวจค้นภายในร้าน Suppaweed ท่อม & กัญ ทันทีที่ตำรวจได้จู่โจมเข้าไปภายในร้าน พบลูกค้ากำลังนั่งเต็มร้าน โดยมีแก้วน้ำใบกระท่อม วางไว้บนโต๊ะ บนโต๊ะพบยาก้ไอชนิดเม็ดและน้ำจำนวนมาก จึงได้ทำการยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับ นำสำเนาเงินธนบัตร 100 บาท จำนวน 3 ใบ เป็นเงินที่ได้มีการล่อซื้อน้ำใบกระท่อมจำนวน 300 บาท ไว้เป็นหลักฐานด้วย ขณะที่บนโต๊ะภายในร้านพบแก้วเก็บความเย็นที่มีน้ำใบกระท่อมอยู่ภายในแก้ว และยังพบถาดใส่ยาแก้ไอชนิดเม็ดพร้อมช้อนตวง ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจค้นบริเวณเคาท์เตอร์พบยาแก้ไอ แดสทิสชิน (ยาอันตราย) ชนิดน้ำ จำนวน 10 ขวด, ยาแก้ไอ Fatec cetirizine (ยาอันตราย) ชนิดน้ำ จำนวน 3 ขวด, ยาบรรเทาอาการที่เกิดจากภูมิแพ้ ยี่ห้อ PACMADOL จำนวน 1 กระปุก จำนวน 1,000 แคปซูล
ขณะที่ในตู้แช่พบน้ำใบกระท่อมจำนวนมากเป็นกลิ่นต่างๆ และน้ำใบกระท่อมที่ลูกค้าได้ฝากไว้ พร้อมกับควบคุมตัวนายสุรัตน์ ศรีพินิจ อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน นายอัครวินท์ หว่างแสง อายุ 21 ปี และนายวันมงคล ดียิ่ง อายุ 20 ปี ผู้ดูแลร้านไว้ ก่อนที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้มีการเก็บตัวอย่างน้ำใบกระท่อมตามแก้วที่อยู่บนโต๊ะ เพื่อไปตรวจอสบว่ามียาแก้ไอผสมอยู่กับน้ำใบกระท่อมหรือไม่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางตำรวจ ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าร้านดังกล่าวได้มีการเปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงกลางดึกจะส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านอยู่ใกล้เคียง ทำให้สายลับได้มีการเข้ามาตรวจสอบพบว่า มีการขายน้ำใบกระท่อมที่มีใส่ยาแก้ไอลงไป จึงได้มีการวางแผนในการเข้าจับกุมในครั้งนี้ เพราะน้ำกระท่อมที่ต้มแล้วสามารถขายได้ แต่ถ้าหากมีการใส่ยาแก้ไอเข้าไปก็ถือว่ามีความผิดทันที ซึ่งยาแก้ไอที่พบนั้น จะต้องขายโดยเภสัชกรที่มีใบอนุญาตเท่านั้น แต่ทางร้านกลับนำมาขายให้กับลูกค้าเอง ซึ่งน้ำกระท่อมไม่ผิดกฎหมาย รัฐบาลสนับสนุนให้ปลูกให้ต้มทุกอย่าง แต่ถ้าเมื่อไหร่เอาไปผสมยาหรือยาเสพติดจะเข้าความผิดหลายมาตรา ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจำนวนมากอีกหรายร้าน ขอให้เลิกทำในลักษณะดังกล่าว ถ้าขายน้ำกระท่อมอย่างเดียวไม่ผสมยาอะไรขายได้เต็มที่เลย ต่อไปนี้จะทำการกวดขันจับกุมทุกร้านที่นำน้ำกระท่อมมาใช้ในทางที่ผิดเพราะทำให้ น้ำกระท่อมและใบกระท่อมเสียหาย ซึ่งน้ำกระท่อมและใบกระท่อมคือของดีที่รัฐบาลส่งเสริม แต่พอเอามาผสมยาแบบนี้มันกลายเป็นเสีย
ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา “ ร่วมกันขายน้ำกระท่อมผสมยาตามกฎหมายว่าด้วยยา (มาตรา 26 พรบ.พืชกระท่อม), ร่วมกันจูงใจ ชักนำ ส่งเสริม ใช้อุบายหลอกให้ผู้อื่นบริโภคใบกระท่อม ผสมยาตามกฎหมายว่าด้วยยา (มาตรา 28 พรบ.พืชกระท่อม), ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบัน (Datisin ซึ่งเป็นยาอันตราย) โดยไม่มีใบอนุญาต (มาตรา 12 พรบ.ยา), ร่วมกันขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำหรับยา (มาตรา 72(4) พรบ.ยา), ร่วมกันขายยาบรรจุเสร็จหลายขนาดโดยจัดเป็นชุดในคราวเดียวกัน (มาตร 75 ทวิ พรบ.ยา), และร่วมกันขายโดยมิได้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต (มาตรา 28 พรบ.วิชาชีพเภสัชกรรม) “ ก่อนส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: