15 พ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น ร่วมกับตำรวจภูธรกระนวน จังหวัดขอนแก่น สนธิกำลังเข้าตรวจค้นภายในสถานประกอบการคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอกระนวน หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวมาทำงาน เป็นพนักงานเด็กนั่งดริ้งประจำร้าน จากการตรวจสอบพบมีหญิงสาวเป็นพนักงานประจำร้าน และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบไม่พบว่าเป็นไทย เป็นหญิงสัญชาติลาวจำนวน 10 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับสารภาพว่า เดินทางเข้ามาในรูปแบบวีซ่านักท่องเที่ยวและแอบทำงาน ก่อนตำรวจจะควบคุมตัวไปสถานีตำรวจภูธรกระนวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎกมายในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างสัญชาติลาว ทำ
งานโดยไม่ได้รับอนุญาตทำงานตาม ม.9 พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ( แก้ไขฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2561” รวมทั้งเจ้าของร้าน ที่ได้มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาใช้โดยผิดกฎหมาย ในข้อกล่าวหา “รับคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตาม ม.9 พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และ (แก้ไขฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2561 พร้อมส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.โสรัจ วิชยสุทธิ์ สารวัตรใหญ่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวนมาก จึงได้มีการสนธิกำลังเข้าตรวจสอบที่ร้านคาราโอเกะดังกล่าว จนกระทั่งพบเป็นหญิงสัญชาติลาว 10 คน ที่เข้ามาทำหน้าที่คอยเสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่มให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ภายในร้าน เมื่อตรวจเอกสารพบว่าจำนวน 7 ราย มีเอกสารเข้าเมืองถูกต้องเป็นวีซ่านักท่องเที่ยว แต่ไม่พบใบอนุญาตทำงาน ส่วนอีก 3 ราย ไม่มีเอกสารใดๆมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ และเมื่อศาลมีการตัดสินแล้ว ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะได้มีการผลักดันกลับคืนประเทศต่อไป ซึ่งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะเข้มงวดการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นการเข้ามาแย่งการทำงานของคนไทย และเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือมาท่องเที่ยวในประเทศไทบ เพื่อไม่ให้คนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เข้ามาทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ.
