วันที่ 4 ธันวาคม 2566 นายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น และเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต พร้อมด้วยนักสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ลงพื้นที่ลำห้วยประทาย ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านหนองกุง หมู่ที่ 3 ตำบลขนวน อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น กรณีว่ามีเอกชนออกโฉนดที่ดินรุกล้ำลำห้วยสาธารณะ โดยมีการถมที่ดินทับลำห้วยประทาย และได้ยึดถือพื้นที่ดังกล่าวเป็นของตน
ในการนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริงพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายกิติพันธ์ จันทร์สุข นายอำเภอหนองนาคำ นายยงยุทธ ผุดผ่อง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น สาขาภูเวียง นายสมบัติ โหมดขาว ปลัดอำเภอหนองนาคำ นางสาวอรวรรณ เขียวทิพย์ รองปลัดเทศบาลตำบลขนวน นายไพรวัลย์ ละภักดี ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองกุง และผู้นำชุมชนตำบลขนวน โดยนายไพรวัลย์ ละภักดี ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองกุง กล่าวอ้างว่า เดิมพื้นที่เป็นลำห้วย แต่ปัจจุบันได้มีเอกชนทำการถมที่ดินทับลำห้วยประทาย ซึ่งเป็นลำห้วยสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันมานาน และได้ยึดถือพื้นที่ดังกล่าวเป็นของตน จนทำให้ลำห้วยที่เคยมีอยู่เดิมสูญหายไป ไม่มีสภาพเป็นลำห้วย และทำให้ไม่มีช่องทางระบายน้ำที่มาจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ซึ่งหากถึงช่วงฤดูฝนของทุกปี จะมีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลเข้าหมู่บ้าน ท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านและบ้านเรือนในหมู่บ้านจนได้รับความเสียหาย
สำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น สาขาภูเวียง ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าก่อนที่จะมีการการออกเอกสารสิทธิ์ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ตามหลักฐานเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินดังกล่าว ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ระเบียบ กฎหมาย ของสำนักงานที่ดินกำหนด โดยไม่ได้นำหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศมาประกอบ
จากนั้น นายกิติพันธ์ จันทร์สุข นายอำเภอหนองนาคำ กล่าวว่าต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่า มีลำห้วยประทายจริงหรือไม่ หากมีลำห้วยเกิดขึ้นก่อนจริง ต้องมีการประสานกับเจ้าของที่ดินเพื่อที่จะทำการคืนพื้นที่ให้กับสาธารณะ หากเจ้าของดินที่ยินยอมคืนพื้นที่ทางสำนักงานที่ดินจะได้ทำการ “แบ่งหักพื้นที่ดังกล่าวออกเป็นที่สาธารณประโยชน์” และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจและหน้าที่ต่อไป
ในการนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น มีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ลำห้วยของเอกชน เพื่อแบ่งหักที่ดินกลับมาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เนื่องจากออกโฉนดในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ที่ดิน ม.61 หากพบการออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบหรือคลาดเคลื่อนให้อธิบดีหรือรองอธิบดีที่รับมอบหมายทำการเพิกถอนให้กลับคืนสู่ที่สาธารณะประโยชน์ฯ
พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 กำหนดให้ นายอำเภอมีหน้าที่ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และสิ่งซึ่งเป็นสาธารณประโยชน์อื่น
ในการดำเนินการในครั้งนี้หากผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องดังกล่าวทำการไกล่เกลี่ยการออกโฉนดกับผู้ยื่นไม่ได้ ขอยุติต้องนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินของรัฐ(คพร) ในการพิจารณาแนวเขตที่ดินเกิดเหตุออกโฉนดทับคลองสาธารณะประโยชน์หรือไม่
……………
ที่มา>.ปปช ขอนแก่น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
- กฟผ.แม่เมาะ มอบความสุข สไตล์บาหลี อินโดนีเซีย ในงานฤดูหนาวและของดีนครลำปาง
- แห่ชมโคมไฟพร้อมรับลมหนาวทางเทศบาลตำบลตลุกดู่เนรมิตรให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: