“บิ๊กโจ๊ก” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเดินทางของประชาชนที่ บขส.3 ขอนแก่น ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่พร้อมกำชับพนักงานขับรถโดยสารแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ เผยพอใจระดับหนึ่งภาพรวมการเกิดอุบัติเหตุลดลงช่วงปีใหม่ เตรียมเข้มงวดเรื่องวินัยจราจรมากขึ้น ขับย้อนศร ไม่สวมหมวก ฝ่าไฟแดง ต้องถูกดำเนินคดี

• Facebook
• Twitter
• Line

เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 3 มกราคม 2567 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่น แห่งที่ 3 อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม การเดินทางหลังเทศกาลปีใหม่ 2567 ของประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่จุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 โดยได้ได้พบปะพูดคุยกับประชาชนที่มารอเดินทางบนรถโดยสาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และแจกเครื่องดื่มขนมขบเคี้ยว พบปะกับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างและรถสามล้อพ่วงข้าง พร้อมติดสติ๊กเกอร์แถบสีสะท้อนแสง เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ และกำชับเรื่องวินัยจราจร โดยมีนายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ


พล.ต.อ สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าเจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงานทั้งในพื้นที่นครราชสีมาและขอนแก่น ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของประชาชน โดยใช้การบังคับใช้กฎหมายนำ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย วันนี้จึงได้ลงพื้นที่มาขับเคลื่อนร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกจังหวัด ซึ่งสถานการณ์ในภาพรวมจะเห็นได้ชัดเจนว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุ การเจ็บ การตายในปีนี้ลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพราะมีการบังคับใช้กฎหมาย การสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจแอลกอฮอล์ สารเสพติด และการกวดขันวินัยจราจรในเส้นทางสายรองมากขึ้น ยอมรับว่าสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของทั้ง 76 จังหวัด ก็คือ เรามีสถานีขนส่ง 200 กว่าจุด หลายจังหวัดมีการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์บ้าง ไม่ตั้งบ้าง ทำให้ปีที่ผ่านมามีเหตุรถบัสโดยสารพลิกคว่ำ แต่ปีนี้ได้มีการสั่งการให้ตำรวจตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดร่วมกับขนส่งจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เห็นชัดว่า ปีนี้ไม่มีเหตุรถบัสโดยสารพลิกคว่ำหรือเทกระจาดเลย นอกจากนี้ยังได้มีการติดตามตรวจสอบรถโดยสารขนาดเล็ก เช่น รถสกายแล็ป ที่มักเกิดอุบัติเหตุ เพราะว่า ไม่มีไฟท้าย จึงได้ใช้วิธีการติดสติ๊กเกอร์สะท้อนแสง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านลงไปติดสติ๊กเกอร์สะท้อนแสงให้กับรถสกายแล็ปทุกคนในทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ



รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า แม้ภาพรวมของการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้จะลดลง แต่ก็เป็นความพอใจในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะต้องการให้การเกิดอุบัติเหตุลดต่ำลงที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ไปจะมีการเอา 7 วันของการเฝ้าระวังอุบัติเหตุทางถนนไปศึกษาจุดอ่อนและพัฒนาวิธีการป้องกัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง มี.ค.2567 ในการปรับปรุงจุดอ่อน จุดเสี่ยงให้เป็นจุดไม่เสี่ยง จุดไหนที่ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ทัศนวิสัยไม่ดี ต้องทำให้ชัดเจน โดยในช่วงหลังปีใหม่สิ่งที่ตนเองจะต้องทำอย่างยิ่งยวดก็คือ เรื่องการสวมหมวกกันน็อค เพราะเห็นแล้วว่าจากการที่มีการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง ทำให้สาเหตุของการเจ็บการตายจากการดื่มแล้วขับไปอยู่ในลำดับท้าย ๆ แต่สาเหตุหลักของการเจ็บการตาย คือ การไม่สวมหมวกกันน็อค การไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยหลังปีใหม่นี้จะเน้นหนักในเรื่องของวินัยจราจร เช่น การขับย้อนศร ไม่สวมหมวกกันน็อค ขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง ที่เป็นสาเหตุหลักของการตายทั้งสิ้น ดังนั้นมั่นใจว่าในวันสองวันนี้ประชาชนจะเดินทางกลับไปทำงานได้อย่างปลอดภัยจากความร่วมมือและการกวดขันของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

• Facebook
• Twitter
• Line