เอกอัครราชทูตเยอรมันให้ความสนใจอุตสาหกรรมระบบราง พร้อมจับมือภาคเอกชนในพื้นที่ รวมถึงเสริมความเข้มแข็งการศึกษา ฟื้น “เทคนิคไทย-เยอรมัน”
วันนี้ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ นายเกออร์ค ชมิดท์ เอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย พร้อมภริยา ในโอกาสเดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อศึกษาภูมิประเทศ วัฒนธรรม ประเพณี การศึกษา เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่นในฐานะเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวและเป็นเมือง Mice City เป็นเมืองที่มีศักยภาพของการลงทุนที่สูงในภูมิภาค และมีโครงการลงทุนใหญ่ๆ เข้ามาจำนวนมาก รวมทั้งการศึกษาโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคนิค ไทย-เยอรมัน ที่จังหวัดขอนแก่นอีกด้วย
โอกาสนี้เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมชมกิจการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ซึ่งก่อตั้งจากสัญญาความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น” แต่บุคคลทั่วไปนิยมเรียกว่า “เทคนิคไทย-เยอรมัน”
โดยในปี 2518 เข้าร่วมเป็นวิทยาเขตหนึ่งในสังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ได้รับพระราชทานนามเป็น “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล” ในปี 2531
ปัจจุบันเป็นวิทยาเขตหนึ่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรีและระดับปริญญาโทในด้านวิศวกรรมศาสตร์ ครุศาสตร์อุตสาหกรรม บริหารธุรกิจ วิทยาศาสตร์ และศิลปศาสตร์ ซึ่งมีบัณฑิตสำเร็จการศึกษาในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ภายใต้ปณิธานว่า “เราจะพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพและเทคโนโลยีที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล” ในวันที่ 14 มีนาคม 2561 ในวันคล้ายวันสถาปนาวิทยาเขตขอนแก่นได้มีพิธีเปิด “วิทยาลัยไทยไมสเตอร์” โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภามหาวิทยาลัยฯ Dr.Christine Falh Grosses ที่ปรึกษาทูตฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันร่วมในพิธีเปิด
โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ได้ร่วมประชุมกับผู้ทรงคุณวุฒิ คณาจารย์ และ สมาคมศิษย์เก่า มทร. พร้อมกล่าวว่า ไทยและเยอรมันมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นเวลานานและแน่นแฟ้นขึ้นตามลำดับ แต่หลังจากนี้ก็คงเป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งก็ต้องดูว่าทิศทางของความสัมพันธ์จะเป็นไปในรูปแบบใด สิ่งที่ทางเยอรมันให้ความสนใจในจังหวัดขอนแก่นขณะนี้เรื่องหนึ่งคือ อุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้คือ การจับมือร่วมกันระหว่างฝ่ายอุตสาหกรรม การศึกษา และ ภาคธุรกิจ ซึ่งคงต้องคุยกันในรายละเอียดต่อไป ส่วนในประเด็นของการสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันไทย-เยอรมันให้แข็งแกร่งมากขึ้น ต้องยอมรับว่า สถาบันแห่งนี้มีต้นทุนความเป็นไทย-เยอรมัน มาแต่เดิม การจะสร้างความเข้มแข็งจึงเป็นสิ่งที่ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ทางประเทศเยอรมันเองก็ต้อนรับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
