หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมฉีดพ่นละอองน้ำตามจุดสำคัญทั่วเมือง หลังขอนแก่นจมฝุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เตือนประชาชนสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นและควันพิษในระยะนี้
จากการตรวจวัดสภาพอากาศในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยแอพพลิเคชั่น Air4Thai ซึ่งรายงาน สภาพอากาศในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเป็นรายชั่วโมง โดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น มีค่า AQI สูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งมีคำอธิบายจาก สนง.สิ่งแวดล้อมภาค 10 ว่า ระยะนี้จะเป็นช่วงที่ จ.ขอนแก่น มีมลพิษในอากาศสูงกว่าช่วงอื่นในรอบปี เนื่องจากเป็นช่วงที่เกษตรกรมีการเผาพืชผลการเกษตรในไร่นา เพื่อเตรียมปรับหน้าดินสำหรับการเพาะปลูกที่กำลังจะมาถึง
ประกอบกับช่วงนี้ประเทศไทยมีปัญหามลพิษที่พัดผ่านจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาปกคลุมในพื้นที่ภาคอิสาน ส่งผลให้หลายจังหวัดทั้งขอนแก่น เลย และ นครราชสีมา มีดัชนีค่ามลพิษในอากาศสูงกว่าปกติ โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น คาดว่าในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีฝนตกลงมา ทำให้ความเร็วของลมมาช่วยกระจายตัวฝุ่นละอองในจังหวัดได้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็จะช่วยดูดซับฝุ่นละอองที่มีอยู่ให้หมดไป
ข่าวน่าสนใจ:
ด้าน นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าฯ ขอนแก่น ได้ประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อหามาตรการรับมือ โดยมีการวางมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการห้ามเผาพืชผลการ เกษตรในไร่นา การเข้มงวดต่อการใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำ
นอกจากนี้ยังมีการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อป้องกันและกำจัดปัญหาฝุ่นละออง ลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 และ PM10 ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน โดยได้ฉีดพ่นละอองน้ำบนรถกระเช้าที่ระดับความสูง 37 เมตร ที่บริเวณถนนมิตรภาพด้านหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อช่วยลดค่าฝุ่นละอองในพื้นที่มหาวิทยาลัยและบริเวณโรงพยาบาลศรีนครินทร์
“ปัญหาฝุ่นละอองที่จังหวัดขอนแก่นในขณะนี้ สาเหตุหลักเกิดจากการเผาไร่อ้อย นอกจากนี้ยังพบว่าที่นาที่ไม่ได้เพาะปลูกก็มีการเผาหญ้าที่ขึ้นรก ทั้งเกิดจากฝีมือคน และเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ขอให้ประชาชนได้เตรียมหน้ากากอนามัยป้องกันอันตรายจากควันดำและฝุ่นละอองด้วย เพราะหากสูดดมสะสมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำจะส่งผลให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ช่วยกันป้องกันฝุ่นละอองทั้งจากการก่อสร้างอาคาร และการเผาหญ้า เผาอ้อยริมถนน รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆที่จะสร้างมลพิษทางอากาศในขณะนี้ด้วย” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว
แต่สถานการณ์ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น กลับเลวร้ายลงไปอีก โดยในช่วงค่ำที่ผ่ามา ดัชนีค่าคุณภาพอากาศ (AQI) สูงขึ้นแตะ 200 เป็นครั้งแรกเมื่อเวลา 20.00 น. โดยมีค่า PM2.5 = 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ PM10 = 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ไอหรือหายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศรีษะ และอาจส่งผลให้เกิดอาการรุนแรง เช่น หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ หรือ อ่อนเพลีย และมีคำแนะนำให้ประชาชนทุกคนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
ตลอดคืนที่ผ่านมาดัชนีค่า AQI พุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกชั่วโมง กระทั่งขึ้นถึงจุดสูงสุดเมื่อเวลา 05.00 น. ช่วงเช้าที่ผ่านมา ดัชนีค่า AQI = 212 และ PM2.5 = 102 และยังคงทรงตัวอยู่ในระดับนี้จนถึงช่วงสายของวันนี้ ซึ่งถือเป็นค่ามลพิษทางอากาศที่สูงที่สุดของประเทศ โดยมีตัวเลขขึ้นแถบสีแดงเพียงจังหวัดเดียว
สำหรับวันนี้มีรายงานว่า ทางจังหวัดขอนแก่นจะฉีดพ่นน้ำลดฝุ่นละอองในเขตศูนย์ราชการและสถานศึกษา ทั้งที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น และ สามแยกไฟแดง ต.ท่าพระ และเวลา 11.00 น. ผู้ว่าฯ ขอนแก่นจะเรียกประชุมผู้ประกอบการไร่อ้อยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการห้ามเผาอ้อย พร้อมขอความร่วมมืออาคารสูงต่างๆ เพื่อให้ใช้ระบบน้ำต่อนอกอาคารและพ่นละอองน้ำ เพื่อช่วยให้อากาศในละแวกนั้นดีขึ้น ไม่ทำลายสุขภาพประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กลาโหม เร่งประชุมเตรียมออกมาตรการแก้วิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก
- รง.โอ่งยอมหยุดเผาโอ่ง 5 วัน หวังช่วยลดฝุ่นละอองในอากาศ
- ตำรวจจับมือขนส่งตั้งจุดตรวจจับควันดำ เพื่อลดค่าฝุ่นละอองทางอากาศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: