รมว.คมนาคมเดินทางตรวจสนามบินขอนแก่นหลังไฟไหม้ห้องไฟเร่งของบซ่อมแซม และเร่งเปิดระบบไฟคาดเช้าเปิดบริการได้ถ้าระบบแอร์เรียบร้อย เบื้องต้นใช้เช็คอินแมนนวลไปก่อน และกำชับทุกสนามบินตรวจไฟทั้งก่อนและปิดสนามบิน ส่วนสาเหตุต้องรอพิสูจน์หลักฐาน
ช่วงเย็นวันที่ 26 ม.ค.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจสนามบินขอนแก่น หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องควบคุมไฟฟ้า บนอาคารผู้โดยสารชั้น 3 จนทำให้ต้องปิดอาคารเนื่องจากระบบไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้
โดยนายอาคมให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันแก้ปัญหา จนลุล่วงไปด้วยดี แม้ว่าช่วงเช้าจะต้องให้เที่ยวบิน 3 เที่ยวไปลงที่สนามบินอุดรธานี แต่พอเที่ยงก็สามารถให้บริการได้เพราะรันเวย์ไม่ได้รับผลกระทบ เพียงแต่ระบบการเช็คอินอัตโนมัติไม่สามารถใช้ได้ ต้องเช็คอินระบบแมนนวล แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทุกเที่ยวบินสามารถบินได้ตามโปรแกรม
เท่าที่ตรวจสอบพบว่าที่เสียหายจริงๆเป็นเฉพาะห้องไฟต้นเหตุ แต่อาจจะมีบางส่วนได้รับผลกระทบไปด้วยเพราะโดนน้ำ และโฟมที่ใช้ดับเพลิง ซึ่งในคืนนี้จะเร่งทำความสะอาดและเร่งแก้ไขระบบไฟให้กลับมาใช้งานได้ ในส่วนของชั้น 1 และชั้น 2 และถ้าหากระบบแอร์ใช้ได้คาดว่าในพรุ่งนี้เช้าน่าจะเปิดได้ตามปกติ
ส่วนสาเหตุนั้นนายอาคมบอกว่า ต้องรอให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้สรุป แต่สนามบินนี้อายุกว่า 20 ปี ห้องไฟเองนั้น ปกติตรวจเช็คอยู่เป็นประจำ ซึ่งสายไฟเก่าเมื่อขยับอาจช็อตได้ แต่เมื่อเกิดเหตุก็ต้องเร่งแก้ไขเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อซ่อมแซมห้องไฟ ปกติปีนี้มีงบประมาณ ซ่อมแซมอาคารนี้ และก่อสร้างอาคารใหม่ด้วย รวมทั้งอาคารจอดรถให้รองรับได้มากกว่า 5 ล้านคนต่อปี
และที่ผ่านมาได้มีการกำชับทุกสนามบินให้ตรวจสอบระบบความปลอดภัยมาโดยตลอดทั้งก่อนเปิดและปิดสนามบิน เพราะเคยเกิดอุบัติเหตุครั้งหนึ่งที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ไฟฟ้าต้องมีการแยกส่วน ระบบจ่ายไฟต้องแยกชัดเจน ทั้งตัวอาคาร แต่ละชั้นและรันเวย์ และต้องติดตั้งระบบป้องกันเพลิงที่ทันสมัย โดยนายอาคม ได้ยกตัวอย่างที่สนามบินอุดรธานี ซึ่ง สร้างใหม่ในปี 2558 ระบบป้องกันเพลิงค่อนข้างดี ใช้ระบบที่ทันสมัย ใช้ในไตรเจนไล่ออกซิเจนออกไป ไม่มีควันไฟ หยุดการเผาไหม้ และติดตั้งเรื่องระบบซีซีทีวีมอนิเตอร์ความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง
