ตม. 4 แถลงจับแรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ลักลอบตัดไม้ในป่าและคดีอื่นๆ กว่า 2.2 พันราย พร้อมเฝ้าระวังเหตุร้ายก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34
วันนี้ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 (ขอนแก่น) พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม. 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีรโชติ รอง ผบก.ตม. 4 และคณะ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้กระทำความผิดและต่างด้าวที่อยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย ในห้วงระยะเวลา 1-14 มิถุนายน 2562
ผลการปฏิบัติ ดังนี้ 1. หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต 622 ราย 2.อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด 31 ราย 3.ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 73 ราย 4.จับกุมตามหมายจับ 16 ราย และ 5.ความผิดตามกฎหมายอื่นๆ 1,245 ราย รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,274 ราย โดยมีการจับกุมคดีสำคัญกว่า 6 คดี คือที่ ตม.จว.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนและเจ้าหน้าที่ปกครอง อ.ครบุรี สนธิกำลังจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ป่าทับลาน 18 ราย พร้อมของกลาง 9 รายการ ต่อมาเป็นคดีที่ ตม.จว.นครพนม จับกุมต่างด้าวสัญชาติเวียดนามปลอมหนังสือเดินทางเพื่อเข้ามายังประเทศไทย
ข่าวน่าสนใจ:
นอกจากนี้ยังมีคดีที่น่าสนใจ คือ ที่ตม.จว.อุบลราชธานี จับกุมต่างด้าวสัญชาติอินเดียที่เข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ชื่อมิสเตอร์ ราเมธ ยาดาร์ฟ อายุ 59 ปี ซึ่งผู้ต้องหารายนี้เมื่อปี 61 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเรียกดอกเบี้ยเงินกู้สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งเคยถูกส่งตัวกลับประเทศแล้ว แต่หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้มีการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างในหนังสือเดินทางเล่มใหม่ เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด
ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 (ขอนแก่น) กล่าวว่า ขณะที่ในพื้นที่ยังต้องเฝ้าระวังชาวต่างด้าวสัญชาติโคลัมเบียและแคเมอรูน เนื่องจากมีพฤติกรรม ก่อเหตุงัดแงะและขโมยตู้เซฟตามบ้านเรือนประชาชน ซึ่งพบก่อเหตุมาแล้วในหลายพื้นที่และมีหมายจับคดีสำคัญอยู่ด้วย โดยกลุ่มคนสัญชาตินี้จะลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนฝั่ง สปป.ลาว กัมพูชา และพม่า และจากการเฝ้าติดตามพบว่า กลุ่มคนพวกนี้ยังไม่ได้เข้ามาในพื้นที่แต่เปลี่ยนเข้าไปในพื้นที่อื่น ซึ่งทาง ตม.ได้มีการประสานข้อมูลเพื่อป้องกันและติดตามจับกุมชาวต่างชาติที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้เข้ามาก่อเหตุร้ายหรือคดีต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 22 – 23 มิ.ย. 2562
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: