ขอนแก่น – ตำรวจภูธรภาค 4 จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกผู้เสียหายหลายรายในภาคอีสานและก่อเหตุทั่วประเทศ เชื่อยังมีอีกหลายแก๊งตั้งชุดไล่ล่าโดยเฉพาะ
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่ามีผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 2 แก๊ง แต่มีพฤติกรรมเชื่อมโยง ลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน โดยแก๊งแรกจับกุม MR.DMITRY GORDEEV ชาวรัสเซีย พร้อมด้วยชาวไทยที่ร่วมขบวนการ คือ น.ส.วราภรณ์ โพธิสาร ชาวอุดรธานี นางสายพิณ จันทร์แก้ว ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.เปมิกา หนีภัย ชาวประจวบคีรีขันธ์ นายวินัย ชัยชนะมงคล ชาวจังหวัดสระแก้ว น.ส.ชนิดา แพรแสง ชาวแม่ฮ่องสอน
แก๊งนี้ได้โทรศัพท์ขึ้นต้นรหัส 02 หลอกผู้เสียหายชาวมุกดาหาร ว่ามีพัสดุตกค้างจากไปรษณีย์กลางกรุงเทพ มีสมุดบัญชีธนาคารของผู้เสียรวมอยู่ด้วย และบอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรหา พอมีโทรศัพท์โทรเข้ามารหัสขึ้นต้นด้วย 043 แล้วแจ้งว่าเป็นตำรวจภาค 4 ขอนแก่น และพูดโน้มน้าวจนผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้กับแก๊งคนร้าย ซึ่งผู้เสียหายรายนี้สูญเงินในการโอนจำนวน 1,600,000 บาท
อีกแก๊งจับกุมนาย LIM SEK HOU สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม หลายบัญชี ซึ่งคนร้ายรายนี้เป็นคนกดเงินที่คนในแก๊งโทรศัพท์หลอกให้ผู้เสียหาย โอนเงินจำนวน 89,500 บาทเข้าบัญชีชื่อนายมาหะมะ คามิ และแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถสืบทราบและสามารถจับกุมตัวได้ที่สภ.สะเดา จ.สงขลา โดยรายนี้ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุหลายท้องที่ มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท
ทั้ง 2 แก๊งมีพฤติกรรมคล้ายกัน โดยการสุ่มโทรหาผู้เสียหายแล้วแจ้งว่ามีพัสดุตกค้างโดยภายในมีบัญชี มีเงิน มีบัตรเอทีเอ็ม เป็นชื่อของผู้เสียหาย ระบุว่าผู้เสียหายมีความผิดให้มาแสดงตัว โดยมีการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 กองเมือง กองสืบบ้าง บางคนในแก๊งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ทำให้เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปให้คนร้าย ทั้ง 2 แก๊ง หลอกคนทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่พื้นที่ภาคอีสานเท่านั้น ใช้ โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตที่สามารถตั้งรหัสพื้นที่ได้ โดยมีต้นทางจากต่างประเทศ เช่นไต้หวัน ฮ่องกง
แก๊งที่หลอกผู้เสียหายจังหวัดมุกดาหาร ขณะนี้จับกุมได้กว่า 10 คน ทั้งคนรับจ้างเปิดบัญชี คนกดเงิน มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เป็นชาวรัสเซีย แต่มีภรรยาเป็นคนไทย ส่วนกรณีที่หลอกในพื้นที่ขอนแก่น จับได้ที่ชายแดนสะเดา ซึ่งมีภรรยาเป็นชาวไทยเช่นกัน พร้อมกับสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็มหลายบัญชี รหัสเอทีเอ็ม เลขบัตรประชาชนของคนที่เปิดบัญชีให้
“ ภาค 4 เองนั้นให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นเดียวกับทุกพื้นที่ โดยได้ตั้งชุดติดตามไล่ล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ จนตอนนี้ติดตามจับกุมเครือข่ายได้แล้ว 2 แก๊ง และจะขยายผลไปยังแก๊งอื่นๆ อีก เตือนประชาชนด้วยว่า ไม่ให้หลงเชื่อคนที่โทรศัพท์แล้วแอบอ้างเป็นตำรวจ เป็นปปง. หรือแม้แต่อ้างว่ารู้จักสนิทสนมกับตำรวจ ให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อนเพราะถ้าหลงเชื่อจะเสียเงินฟรี”จับ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: