ขอนแก่น – สาวนักตุ๋นใช้อุบายหลอกเหยื่อเจ้าของร้านค้า จนยอมซ้อนท้ายรถไปด้วยกันแล้วปล่อยกลางทาง ก่อนย้อนกลับไปขโมยทรัพย์สิน สารภาพดูลาดเลาก่อนว่าอยู่คนเดียวจึงฉวยโอกาสลงมือ
นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนางอุ๊ อายุ 30 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 256 หมู่ 6 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น พร้อมของกลางรถมอเตอร์ไซด์สีเขียว-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง แทปเล็ต 1 เครื่อง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคืนได้บางส่วนจากร้านรับจำนำที่จังหวัดมหาสารคาม
โดยผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยมีประชาชนที่มีอาชีพค้าขาย ทั้งนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงวัยหลายรายได้แจ้งความว่าถูกคนร้ายเป็นหญิงอายุประมาณ 30-35 ปี ผมยาวหยิกสูงประมาณ 150-155 ซม. ขี่รถมอเตอร์ไซด์สีเขียว-ขาว
ใช้อุบายหลอกซื้อสินค้าหรือหลอกว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ในหอพัก ทำทีต้องไปเอาภาชนะหรือช่วยขนของ ชวนให้ผู้เสียหายขึ้นรถไปช่วย เมื่อไประหว่างทางออกอุบายให้ลงจากรถ อ้างว่าลืมกุญแจเข้าห้อง ระหว่างนั้นก็ขี่รถย้อน กลับไปที่ร้านหรือหอพักเพื่อขโมยสิ่งของ แล้วนำเอาไปจำนำที่ร้านประจำในจังหวัดมหาสารคาม
โดยก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งในเขต สภ.เมือง และ สภ.บ้านเป็ด รวมกว่า 20 ครั้ง ทั้งยังเคยไปก่อเหตุลักษณะนี้ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย โดยมักจะเลือกร้านซึ่งมีคนเฝ้าร้านอยู่คนเดียว ทั้งนี้ระหว่างแถลงข่าวได้มีนายภัทรพล ซาซุม อายุ 28 ปี เจ้าของร้านอาหารหน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำส้มตำและดอกกุหลาบมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
โดยบอกว่าเป็นผู้เสียหายถูกนางอุ๊ขโมยโน๊ตบุ๊คจากร้าน เมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา นางอุ๊ได้เข้ามาที่ร้านและสั่งส้มตำ 30 ครก ไก่ย่าง 5 ตัว เพื่อนำไปเลี้ยงเด็กเนื่องในโอกาสวันเด็ก ตนเห็นว่าเป็นโอกาสร่วมทำบุญจึงไม่เอะใจ เมื่อนางอุ๊บอกว่าจะกลับไปเอาถาดมาใส่ส้มตำและไก่ย่าง ตนจึงซ้อนมอเตอร์ไปด้วยเพื่อช่วยถือของ
เมื่อขับไปไม่นาน นางอุ๊ได้จอดรถแล้วบอกว่า ให้รอสักครู่ลืมกุญแจห้องจะกลับไปเอากับพี่ แต่หายไปนานหลายนาที จึงได้โทรบอกคนรู้จักให้ดูร้านให้ แต่ก็ไม่ทันเพราะนางอุ๊ได้เข้าไปขโมยของแล้ว หลังเกิดเหตุทราบว่า มีหลายคนตกเป็นเหยื่อต่างก็บอกต่อกันและมีภาพจากกล้องวงจรปิดก็กระจายข่าวกันออกไป สุดท้ายก็ถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: