ขอนแก่น – ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตือนประชาชนระวัง แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาข้อมูลส่วนตัวในช่วงขอคืนเงินภาษี
นายอดุลย์ ค้ำชู ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ปัจจุบันพบปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์หลอกเอาข้อมูลจนทำให้มีเหยื่อสูญเสียเงิน โดยตลอดทั้งปี 2560 ที่ผ่านมา มีประชาชนโทรเข้ามาที่สายด่วน 1213 ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน เพื่อแจ้งและสอบถามเฉพาะเรื่องนี้ จำนวน 199 สาย ในจำนวนนี้มีผู้เสียหาย 8 ราย แต่ก็ยังโชคดีที่ส่วนใหญ่ไหวตัวทัน ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อแก๊งเหล่านี้เพียง 8 ราย
แต่อย่างไรก็ตามแสดงให้เห็นว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นภัยที่ต้องเตือนประชาชนว่าการหลอกลวงทางโทรศัพท์ยังพบค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงกำลังยื่นขอคืนเงินภาษี ขอให้ปะชาชนระมัดระวังเป็นพิเศษที่มิจฉาชีพจะอาศัยช่วงเวลานี้โทรศัพท์มาหลอกล่อ เช่น แจ้งว่าได้รับคืนภาษี หรือแจ้งว่าเช็คที่ส่งไม่มีผู้รับ ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ โดยอ้างว่าเป็นวันสุดท้ายในการคืนเงินภาษี เมื่อเหยื่อเกรงว่าจะเสียสิทธิ์อาจจะแสดงตัวจนให้ข้อมูลส่วนตัว ส่งผลให้สุดท้ายเสียเงินจากบัญชีธนาคาร
จึงขอเตือนประชาชนถ้าได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับการคืนภาษีหากมีการสอบถามข้อมูลส่วนตัว ขอให้ตั้งสติ อย่าเพิ่งให้ข้อมูลใดๆ โดยเฉพาะการให้เลขบัตรประจำตัวประชาชน ขอให้โทรศัพท์สอบถามสำนักงานสรรพากรในพื้นที่เสียก่อน ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพากรเองก็ไม่มีนโยบายติดต่อทางโทรศัพท์ หรือจะโทรศัพท์สอบถามเข้ามาที่สายด่วน 1213 ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้เช่นกัน
นายอดุลย์ ยังกล่าวย้ำอีกว่า รูปแบบการหลอกและทำธุรกรรมได้มีการพัฒนามากขึ้น จากเดิมทำธุรกรรมหน้าตู้เอทีเอ็ม ได้หันมาทำผ่านอีแบงก์กิ้ง (e-banking) สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือพาสเวิร์ด ข้อมูลส่วนตัว ต้องอย่าให้ผู้อื่นรู้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะหมายเลขบัตรประชาชน ที่พ่วงถึงเบอร์โทรศัพท์ อย่าปล่อยให้คนที่ไม่รู้จักรู้ได้ เพราะจะนำไปเปิดบัญชีปลอมประกอบธุรกรรมที่ผิดกฎหมายได้ด้วย
ขอบคุณภาพ – สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: