ขอนแก่น – ความคืบหน้าคดี “เปรี้ยว”ขึ้นศาลนัดแรก ไต่สวน “ผกก.เขาสวนกวาง” เจ้าของ พื้นที่พบศพ ด้านทนายฝ่ายโจทก์เรียกค่าเสียหายผู้ต้องหาทั้ง 5 คนต้องชดใช้ให้ครอบครัว “แอ๋ม” เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท
นายนพดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายโจทก์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญในคดี น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว พร้อมพวกประกอบด้วย น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ และ นายวศิน นามพรหม ก่อคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม หลังอัยการจังหวัดขอนแก่น นัดสืบพยานโจทก์ในชั้นศาล โดยมีผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมรับทราบ พร้อมกับมีตนเองเป็นทนายโจทก์ร่วม โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วริศรา ก่อนจะหั่นศพเป็นท่อนและนำไปฝังดินที่ป่าสาธารณะบริเวณพื้นที่บ้านโนนสง่า ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง ก่อนที่จะมีผู้พบศพเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560
ด้านนายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความของ น.ส.อภิวันทน์ หรือ แจ้ กล่าวว่า วันนี้ น.ส.เปรี้ยว พร้อมพวกอีก 3 คน ถูกเบิกตัวมาที่ศาลจังหวัดขอนแก่น รวมทั้ง น.ส.แจ้ ที่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ก็ได้เดินทางมาฟังการไต่สวนนัดแรกที่ศาลด้วย เพราะอัยการได้นัดมาสืบพยานโจทก์ในคดีดังกล่าว เป็นนัดแรกที่ต้องสืบพยานฝ่ายโจทก์ทั้ง 37 ปาก ตั้งแต่เห็นเหตุการณ์ที่พบศพ น.ส.แอ๋ม และดำเนินการจับกุม
โดยผู้ต้องกักขังทั้งหมดถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งกายตาย ร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและรับของโจร นอกจากนี้ น.ส.เปรี้ยว น.ส.เอิร์น และ น.ส.แจ้ ยังถูกตั้งข้อกล่าวหายาเสพติดอีกด้วย ขณะที่ น.ส.เบนท์ ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพียงร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นเพียงข้อกล่าวหาเดียวเท่านั้น
นายนพดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธมาตลอด ก่อนจะกลับคำในชั้นศาลโดยยอมรับสารภาพตามที่อัยการฟ้อง เมื่อคดีดังกล่าวนี้เป็นการกระทำความผิดในการร่วมกับ น.ส.เปรี้ยวพร้อมกับพวกก่อคดีขึ้นมา แต่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา
เพราะทนายโจทก์ต้องสืบพยานให้แน่ชัดเนื่องจากการตายของ น.ส.แอ๋ม ต้องมีค่าเสียหายเกิดขึ้นคือ ค่าไร้อุปการะ 10 ล้านบาท ค่าปลงศพ และ ค่าทำบุญอุทิศส่วนกุศล 3 แสนบาท เป็นเงิน 10.3 ล้านบาท ดังนั้น น.ส.เบนซ์ พร้อมพวกรวม 5 คนต้องรับผิดชอบในการตายของ น.ส.แอ๋มด้วย
สำหรับการไต่สวนวันนี้เริ่มด้วย พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่นในเรื่องคดียาเสพติดที่เป็นสาเหตุที่นำมาสู่การฆ่าหั่นศพ นส.แอ๋ม ต่อมาคือ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ที่เป็นผู้ได้รับแจ้งครั้งแรกจากชาวบ้านว่า พบศพถูกฆ่าในพื้นที่ สภ.เขาสวนกวาง
พยานรายอื่น ได้แก่ นางสาวพิชชาภา คำเพิงใจ มารดาของผู้เสียชีวิต และเป็นหนึ่งในห้าคนแรกที่จะเข้าสืบพยาน ทั้งห้าคนแรกนี้ถือเป็นพยานปากสำคัญ ที่นำไปสู่การติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าหั่นศพได้ทั้งหมด มีรายงานว่า ฝ่าย น.ส.เปรี้ยว พร้อมพวกที่ได้มารับฟังการไต่สวนในชั้นศาลมีอาการวิตกกังวลตลอดเวลา เพราะพยานหลักฐานของโจทก์มีจำนวนมาก
โดยการสืบพยานฝ่ายโจทก์จะมีการสืบพยานทั้งหมด 6 นัด คือวันที่ 20-22 27-28 กุมภาพันธ์ และวันที่ 13 มีนาคม 2561 ส่วนวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.61) การไต่สวนจะเป็นการสืบพยานในส่วนของผู้ให้เช่ารถยนต์เก๋ง ต่อด้วยมารดาของ น.ส.แอ๋ม
รวมทั้งพยานฝ่ายโจทก์คนอื่นๆ อีกไม่น้อยกว่า 30 ปาก เช่น พนักงานร้านสะดวกซื้อที่ผู้ต้องหาไปซื้อถุงดำ ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ขายปูนและถังพลาสติกที่ใส่ศพ รวมถึงผู้พบศพ
โดยหลังจากที่มีการสืบพยานฝ่ายโจทก์แล้วเสร็จ ก็จะเป็นการสืบพยานฝ่ายจำเลย ในห้วงระหว่าง วันที่ 14-15 มีนาคม 2561 ซึ่งจะมีการเบิกตัวผู้ที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ทั้งหมดมาเบิกความต่อศาลจังหวัดขอนแก่นต่อไป
